ข่าวสาร >
2020
February
17
ขั้นตอนการสมัคร WAH/WHS 2019 (Online)
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 139991 คน )

  โครงการ Working Holiday จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 

  • Work and Holiday (WAH) ของประเทศออสเตรเลีย 
  • Working Holiday Scheme (WHS) ของประเทศนิวซีแลนด์ 

        โดยโครงการทั้ง 2 ประเภทมีขั้นตอนการรับสมัครรวมถึงกฎกติกาใกล้เคียงกัน จะแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด ในบทความจะพูดถึงขั้นตอนการสมัครของวีซ่าทั้ง 2 แบบในปี 2019 นี้

        ก่อนหน้าปี 2019 วิธีการรับสมัครของดย.จะให้ทุกคนกดขอโควต้าเข้ามาพร้อมกันหมดในวันเดียว ซึ่งหลายคนมักจะเจอปัญหาเว็บไซต์ล่มหรือเข้าเว็บไซต์ไม่ได้ 

        ในปี 2019 เรามีข่าวเรื่องการเพิ่มโควต้าให้มากกว่า 500 คนต่อปีของออสเตรเลีย ซึ่งรอการอนุมัติอยู่ (ณ วันที่ xx May 2019) ทางดย.จึงได้กำหนดขั้นตอนการสมัครขึ้นใหม่เพื่อให้ไปลด traffic ของเว็บไซต์ โดยการให้ทุกคนเข้ามาลงทะเบียนก่อนเพื่อรับ Username และ Password สำหรับล็อคอินในวันกดโควต้าจริง ตามกำหนดการด้านล่างสำหรับรอบแรก

 

กำหนดการลงทะเบียนและการสมัคร

Working Holiday Scheme New Zealand (WHS)

22-26 เมษายน 2562 : ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับ Username และ Password สำหรับ Log in เข้าระบบในวันกดโควต้า ทางเว็บไซต์ https://www.dcy.go.th/ ไม่จำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน
*ขั้นตอนนี้ได้ผ่านไปแล้ว ถ้าลงทะเบียนไม่ทันถือว่าหมดสิทธิ์ขอโควต้ารอบนี้

24 พฤษภาคม 2562 : สมัครขอหนังสือรับรองคุณสมบัติเพื่อประกอบการขอวีซ่า หรือ การกดโควต้า ทางเว็บไซต์ https://www.dcy.go.th/ เช่นกัน โดยสามารถกดขอได้ 150 คน แบ่งเป็นตัวจริง 100 คน และตัวสำรอง 50 คน
*เริ่มรับสมัครเวลา 09.00 น. ต้องมีล็อคอินจากตอนลงทะเบียน และต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน

15 มิถุนายน 2562 : ยื่นเอกสารฉบับจริงและสำเนาด้วยตัวเองกับทางดย. ณ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (618/1 ถนนนิคมมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400)
*ต้องมาด้วยตนเองในวันที่ระบุเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงวันยื่นเอกสาร

3 กรกฎาคม 2562 : (รอบเช้า) อบรมแนะแนวการยื่นวีซ่า และการเดินทาง ณ โรงแรมในเขตกรุงเทพฯ การอบรมไม่ได้บังคับหรือมีผลต่อวีซ่า แต่ก็เป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูล จำกัดจำนวนผู้เข้าอบรม 300 คน รวมกับวีซ่า WAH

3 กรกฎาคม 2562 : (รอบบ่าย) รับหนังสือรับรองคุณสมบัติ สำหรับคนที่เอกสารผ่าน ณ โรงแรมในเขตกรุงเทพฯ หากให้ผู้อื่นรับแทนต้องทำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้สมัครและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

 

Work and Holiday Australia (WAH)

29 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2562 : ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับ Username และ Password สำหรับ Log in เข้าระบบในวันกดโควต้า ทางเว็บไซต์ https://www.dcy.go.th/
*ขั้นตอนนี้ได้ผ่านไปแล้ว ถ้าลงทะเบียนไม่ทันถือว่าหมดสิทธิ์ขอโควต้ารอบนี้

3 มิถุนายน 2562 : สมัครขอหนังสือรับรองคุณสมบัติเพื่อประกอบการขอวีซ่า หรือ การกดโควต้า ทางเว็บไซต์ https://www.dcy.go.th/ เช่นกัน โดยสามารถกดขอได้ 500 คน และในปีนี้อาจมีการเพิ่มโควต้าสำหรับโครงการ WAH หากมีการอนุมัติสามารถติดตามประกาศการเพิ่มโควต้าได้ทางเฟซบุ๊ค Thaiwahclub.com
*เริ่มรับสมัครเวลา 09.00 น. ต้องมีล็อคอินจากตอนลงทะเบียน และต้องกรอกข้อมูลการรับสมัครทุกช่อง

15-16 มิถุนายน 2562 : ยื่นเอกสารฉบับจริงและสำเนาด้วยตัวเองกับทางดย. ณ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (618/1 ถนนนิคมมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400) โดยแบ่งลำดับการยื่นเอกสาร ดังนี้

วันที่ 15 มิ.ย. สำหรับผู้สมัครลำดับที่ 1-250

วันที่ 16 มิ.ย. สำหรับผู้สมัครลำดับที่ 251-500
*ต้องมาด้วยตัวเองในวันที่ระบุเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงวันยื่นเอกสาร

3 กรกฎาคม 2562 : (รอบเช้า) อบรมแนะแนวการยื่นวีซ่า และการเดินทาง ณ โรงแรมในเขตกรุงเทพฯ การอบรมไม่ได้บังคับหรือมีผลต่อวีซ่า แต่ก็เป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูล จำกัดจำนวนผู้เข้าอบรม 300 คน รวมกับวีซ่า WHS

3 กรกฎาคม 2562 : (รอบบ่าย) รับหนังสือรับรองคุณสมบัติ สำหรับคนที่เอกสารผ่าน ณ โรงแรมในเขตกรุงเทพฯ หากให้ผู้อื่นรับแทนต้องทำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้สมัครและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

 

สรุปสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว

1. ต้องลงทะเบียนเพื่อรับ Username และ Password ในการล็อคอินเข้าไปกดโควต้าก่อน

2. สามารถขอโควต้าได้แค่ประเทศเดียว ไม่สามารถลงทะเบียนเพื่อเลือกไว้ทั้ง 2 ประเทศได้ (ปีก่อนถ้ากดโควต้าของนิวซีแลนด์ไม่ได้มาลุ้นกดของออสเตรเลียต่อได้)

3. วันลงทะเบียนและวันกดโควต้าไม่เหมือนกันทั้ง 2 ประเทศ ดังนั้นถ้าลงทะเบียนของนิวซีแลนด์ไปแล้วก็จะไม่สามารถมาลงทะเบียนของออสเตรเลียได้อีก หรือถ้าต้องการขอ WHS แต่เลยวันลงทะเบียนของนิวซีแลนด์ ก็จะหมดสิทธิ์ทันที (ข้อนี้เป็นข้อที่หลายๆคนพลาด เช่น อยากไปออสเตรเลียแต่ลงทะเบียนของนิวซีแลนด์ จึงไม่สามารถขอโควต้า WAH ได้)

4. ไม่มีการทดลองกดโควต้าให้แล้ว

5. ให้คนอื่นช่วยกดโควต้าไม่ได้แล้ว เพราะต้องใช้ Username & Password ของตัวเองในการล็อคอินเข้าไปกดเท่านั้น (และล็อคอินได้ครั้งละเครื่องเท่านั้น)

 

ข้อควรทราบเพิ่มเติมจากทางดย.

1. ห้ามทำการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านบริษัทนายหน้าที่รับเป็นตัวกลางทำการสมัครและ / หรือ จัดหาที่อยู่ให้เด็ดขาด เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของโครงการและอาจทำให้ไม่ได้รับวีซ่า รวมทั้งอาจตกเป็นเหยื่อ ของกลุ่มมิจฉาชีพได้

2. วีซ่าประเภทนี้ ไม่ใช่วีซ่าทำงาน ดังนั้นหากพบว่าทำงานประจำ ณ ที่ใดเกินกว่า 6 เดือน จะถือว่าได้ทำผิดกฎหมาย อาจถูกถอนวีซ่าและถูกส่งกลับ

3. หากตรวจสอบพบว่า ผู้สมัครมีเจตนากรอกข้อมูลเท็จ ดย.จะตัดสิทธ์ผู้สมัครทันที

4. ดย.จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการสัมภาษณ์ พร้อมวันและเวลาให้ทราบทางเว็บไซต์ของดย. 

5. การมีใบรับรองไม่ได้แปลว่าวีซ่าจะต้องผ่าน แต่จะยื่นวีซ่าได้จะต้องมีใบรับรองจากทางดย.ก่อน 

    การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับทางสถานทูตออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

 

กำหนดการการขอวีซ่า

Australia : สามารถขอได้เลยหลังจากได้รับใบรับรอง เพราะสถานทูตออสเตรเลียเริ่มนับโควต้าใหม่ทุกวันที่ 1 ก.ค. ของทุกปี แต่ใบรับรองของออสเตรเลียจะหมดอายุภายใน 3 เดือนหลังจากได้รับมา จึงควรต้องรีบขอวีซ่า

**อย่างไรก็ตาม การได้รับใบรับรองไม่ได้แปลว่าได้วีซ่า** 

New Zealand : สำหรับของสถานทูตนิวซีแลนด์ สามารถเริ่มขอวีซ่าได้ตั้งแต่ 18 July 2019 เป็นต้นไป (10 am NZ Time)

ใบรับรองของนิวซีแลนด์มีอายุ 6 เดือน โดย 100 คนแรกที่กดโควต้าได้จะมีสิทธิ์ก่อน ส่วน 50 คนหลังซึ่งเป็นตัวสำรองต้องรอทาง ดย. เรียกอีกที

*ทั้งสองโครงการ หลังจากขอวีซ่ามาแล้ววีซ่าจะมีอายุ 1 ปี สามารถเดินทางช่วงเวลาไหนก็ได้ โดยเมื่อเดินทางถึงออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์แล้ว สามารถอยู่ในประเทศได้เป็นระยะเวลา 1 ปี

 

วิธีการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์

        ทาง ดย. ได้สรุปการลงทะเบียนรับ Username & Password ทางเว็บไซต์เป็นรูปภาพเข้าใจง่ายๆ และผู้ลงทะเบียนจะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อกรอกตอนลงทะเบียน ดังนี้ (รอบนี้ปิดรับลงทะเบียนแล้ว)

1. ไฟล์รูปถ่าย

2. เลขบัตรประจำตัวประชาชน

3. ชื่อ - นามสกุล (ภาษาไทยและอังกฤษ)

4. อีเมล์ 

 

สำหรับคนที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อและสถานะยืนยันการสมัคร คลิก

 

ข้อมูลประกอบการสมัครผ่านระบบออนไลน์ (กดโควต้า) 

        หลังจากได้รับ Username & Password แล้วต้องนำมาล็อคอินสำหรับเข้ามาสมัครในเว็บไซต์ www.dcy.go.th ตามวันที่ที่ระบุไว้ของแต่ละโครงการ สามารถตรวจสอบวันที่จากกำหนดการลงทะเบียนและการสมัครด้านบน เมื่อล็อคอินเข้ามาจะขึ้นรูปพร้อมข้อมูลตามที่เคยลงทะเบียนไว้ ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในส่วนนี้ได้แล้ว จากนั้นให้นำข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้กรอกในใบสมัครออนไลน์ให้ครบทุกช่อง (ถ้ากรอกไม่ครบจะไม่สามารถกด Submit ได้)

1. เลขประจำตัวประชาชน 

2. ชื่อ – สกุล (ภาษาไทยและอังกฤษ) 

3. วัน เดือน ปีเกิด 

4. ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 

5. ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อม เบอร์โทรศัพท์มือถือ และ e-mail address 

6. ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ (IELTS)

7. ข้อมูลบุคคลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

 

หลักฐานและข้อมูลที่ต้องเตรียมในการขอใบรับรองคุณสมบัติจากดย.

1. ใบสมัคร (พิมพ์มาจากการสมัครผ่านทางระบบออนไลน์)

2. ปริญญาบัตรหรือหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด โดยเอกสารต้องออกก่อนวันที่เปิดรับสมัครออนไลน์

3. ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด

4. หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด

5. บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด

6. ทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด

7. หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้ โดยต้องแนบหลักฐานอย่างใด อย่างหนึ่ง คือ

 

        สำหรับ WAH Australia

  • ผลการสอบ IELTS (ประเภทใดก็ได้) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4.5 ในทุกทักษะ มีอายุไม่เกิน 1 ปีหรือ
  • ผลการสอบ TOEFL iBT ระดับคะแนน 32 ขึ้นไป ทุกทักษะ มีอายุไม่เกิน 1 ปี หรือ 
  • ใบรับรองหรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลา 2 ปี จากสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ 
  • หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษาตอนต้น (3 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ 
  • หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา 5 ปี (5 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ 
  • สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร 1 ปี ในระดับปริญญาบัตรหรือ ประกาศนียบัตร

        สำหรับ WHS New Zealand

  • ผลการสอบ IELTS (ประเภทใดก็ได้) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4.5 มีอายุไม่เกิน 2* ปี หรือ
  • ใบรับรองหรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลา 2 ปี (Post-secondary qualification of 2 year full – time study) จากสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
  • หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษาตอนต้น (3 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
  • หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา 5 ปี (5 years of secondary education) จากโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน

8. หลักฐานทางการเงินซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์ของผู้เดินทาง ไม่น้อยกว่า 5,000 ดอลลาร์ ออสเตรเลีย (AUD) เป็น Bank Statement หรือใบรับรองทางการเงินของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร โดยชื่อบัญชีจะต้องเป็นชื่อของผู้เดินทางเท่านั้น สำหรับ WAH Australia และหลักฐานทางการเงิน ซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง) จำนวน 7,000 ดอลลาร์ นิวซีแลนด์ (NZD) เป็น Bank Statement หรือใบรับรองทางการเงินของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร สำหรับ WHS New Zealand

9. แผนการเดินทางโดยคร่าวๆ และประเภทงานที่สนใจจะทำระหว่างอยู่ในออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์ (เขียนสรุป ไม่เกิน 1 หน้า เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ)

10. บันทึกข้อตกลงที่ผู้ปกครองลงนามเรียบร้อยแล้ว (สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มจาก เว็บไซต์ภายหลังจากการสมัครผ่านระบบออนไลน์)

11. สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครอง 

 

วิธีการสมัครขอใบรับรองผ่านระบบออนไลน์

1. เข้าหน้าเว็บไซต์ของ กรมกิจการเด็กและเยาวชน แล้วคลิกเลือกแบนเนอร์โครงการ


(วันที่กด NZ ใช้ลิงค์นี้กัน : คิดว่าวันที่กดออสน่าจะใช้ลิงค์เดิมครับ เซฟไว้ก่อน Direct link Working Holiday 2019)

 

2. เมื่อเข้าไปแล้วให้กรอก Username และ Password สี่ตัวที่ได้รับทางอีเมล ดังภาพ 

*ในปีก่อนๆจะให้กรอกเลขบัตรประชาชน แต่ในปีนี้ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนแล้วจึงให้กรอก Username&Password แทน

 

3. เมื่อกรอก Username และ Password แล้วจะพบหน้าจอสำหรับกรอกใบสมัครดังภาพ โดยจะมีข้อมูลบางส่วนจากที่เคยลงทะเบียนไว้อยู่แล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในส่วนนี้ได้ (ช่องที่มีขีดสีเหลือง) ผู้สมัครจะต้องกรอกให้ครบทุกช่องจึงจะสามารถกดบันทึกข้อมูลได้ เช่น ช่องว่างที่วงสีแดงแม้ว่าเราจะเลือกข้อมูลในช่องก่อนหน้าแล้ว แต่จำเป็นต้องระบุข้อมูลในช่องนี้อีกทีเพื่อกรอกให้ครบทุกช่อง อาจกรอกข้อมูลเหมือนเดิมหรือให้กรอกว่า 'อื่นๆ' ก็ได้
Credit : รูปภาพจากน้องๆในกลุ่มไลน์ Working Holiday 2019

 

4. เมื่อบันทึกข้อมูลใบสมัครเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าจอแสดงสถานะการสมัคร ดังภาพ

 

 

5. ผู้สมัครต้องกด "พิมพ์ใบสมัคร"  "พิมพ์ใบบันทึกข้อตกลง" พร้อมทั้งกรอกข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบถ้วนเพื่อใช้ในการแนบเอกสาร ส่งให้กับ ดย. กรณีที่ผู้สมัครได้รับการสัมภาษณ์แล้ว และต้องการเข้ามาตรวจสอบสถานะของตนเอง สามารถเข้ามาที่หน้าจอเดิม ดังภาพ 

 

เมื่อระบุเลขประจำตัวประชาชนแล้ว จะพบหน้าจอแสดงสถานะการพิจารณา ดังภาพ 

 

*หน้าตาในระบบจริงจะไม่ต่างจากนี้มาก

สำหรับรายละเอียดที่ต้องกรอกในแต่ละช่องจะมีประมาณนี้
(ระบบกรอกมาแล้วส่วนหนึ่งดังรูปด้านบน)

1) เลขบัตรจำตัวประชาชน

2) คำนำหน้าชื่อ นาย นาง นางสาว...

3) ชื่อ

4) นามสกุล

5) Prefix (คำนำหน้าชื่อภาษาอังกฤษ) Mr. / Miss / Ms. / Mrs.

6) First name (ชื่อจริงภาษาอังกฤษ)

7) Last name (นามสกุลภาษาอังกฤษ)

8) เพศ

9) drop down list : เชื้อชาติ

10) drop down list : สัญชาติ

11) drop down list : ศาสนา

12) วันเดือนปีเกิด : ระบุเป็น 01012530 (1 มค. 2530) / ช่องอายุจะเป็นการคำนวนอัตโนมัติจากวันเดือนปีเกิดที่กรอก

13) สถานภาพ : โสด , สมรส , หม้าย

14) เบอร์โทรศัพท์มือถือ

15) อีเมล

16) สถาบัน (การศึกษาสูงสุดที่จบมา)

17) drop down list : วุฒิการศึกษา : ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า, ปริญญาโทหรือเทียบเท่า, ปริญญาเอกหรือเทียบเท่า, สูงกว่าปริญญาเอก

18) ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ : ข้อนี้จะมีให้เลือกสองแบบ แต่ให้เลือกเพียงแค่ข้อเดียว

18.1) ทดสอบภาษาอังกฤษ 

a) IELTS , TOEFL

b) ผลคะแนน (เช่น 5.0 - ดูจาก band รวม)

c) วันที่ผลออก (format ววดดปปปป) เช่น 26052560  : วันที่ผลออกดูจากวันที่ระบุไว้ด้านล่างในผลสอบ

d) วันที่หมดอายุ (format ววดดปปปป) : ดย.แจ้งว่าของออสเตรเลียให้กรอกว่า 1 ปีหลังวันสอบ ส่วนของนิวซีแลนด์ 2 ปีหลังวันสอบ

(**ทั้งนี้ทางดย.แจ้งว่าสุดท้ายดย.ดูจากวันหมดอายุเป็นหลัก การกรอกผิดเพราะไม่รู้ แต่ว่าผลยัง valid อยู่เป็นหลัก**)

 

18.2) หลักฐานการศึกษา

1. ใบรับรอง/ประกาศนียบัตร จากสถาบันที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน (หลักสูตรภาคปกติระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลาของหลักสูตรอย่างน้อย 2 ปี) - ถ้าจบปริญญาตรี/โท ภาคอินเตอร์ให้เลือกข้อนี้

2. หลักฐานจากโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน (ระดับมัธยมศึกษาที่มีระยะเวลาของหลักสูตรอย่างน้อย 5 ปี : 5 years of secondary)

3. หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีระยะเวลาของหลักสูตรอย่างน้อย 3 ปี (3 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน

19) บุคคลที่ดย.ติดต่อได้ฉุกเฉิน 

-คำนำหน้าชื่อ 

-ชื่อ 

-นามสกุล

-ความสัมพันธ์ (drop down list : ครู ,ตนเอง,ผู้ปกครอง, ผู้ที่ติดต่อได้, คนรู้จัก, บุตรเขย etc) รายละเอียด

-โทรศัพท์มือถือ 

-Email

        โดยผู้สมัครสามารถกดบันทึกเพื่อนำมาพิมพ์ทีหลัง หรือ login อีกครั้งเพื่อเข้าไปพิมพ์ได้ แต่แนะนำให้บันทึกไฟล์ไว้ก่อนจะดีกว่า เมื่อกรอกข้อมูลและตรวจสอบเสร็จแล้ว ให้คลิก "บันทึกข้อมูล" ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ระบบจะพาเรามาหน้านี้เพื่อแสดงรายละเอียด และบอกว่าเราได้ลำดับที่เท่าไหร่ โดยคอนเฟิร์มถึงรายละเอียดวันสัมภาษณ์ที่ได้กรอกไปด้วย

        สงสัยตรงไหนสามารถสอบถามเข้ามาได้ทาง Inbox ของเฟซบุ๊คเพจ Thaiwahclub.com หรือกด See First เพื่อติดตามข่าวสาร WAH/WHS ได้ทางเพจเช่นกัน ขอให้ปีนี้โชคดีได้ไป WAH/WHS กันทุกคนนะครับ :-) 
สุดท้ายนี้แถมไว้ให้ Tips & Tricks สำหรับกดโควต้า 2019 ที่เพื่อนๆที่กดรอบ NZ กันมาแล้วช่วยกันรวมไว้ให้ครับ 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม