ส่วนตัวผมว่าไอเอลท์เป็นข้อสอบที่ต้องอาศัยความสมดุลครับ แต่ละสกิลไม่ควรห่างกันเกินหนึ่งคะแนนไม่งั้นมันจะฉุดกัน ไอเอลท์ไม่ยากเกิน แต่อาจทำให้รุ้สึกยากเพราะเราไม่ชินกับการใช้ภาษาอังกฤษครับ

ต้องดูที่ตัวเราครับว่าถนัดพาร์ทไหนเป็นพิเศษ ผมแนะนำให้เน้นพาร์ทนั้นๆไปเลยครับ เพราะเราเน้น Overall เป็นหลักก่อน จากนั้นมั่นใจว่าพาร์ทที่ถนัดทำได้ดีแล้วก็ค่อยไปเน้นพาร์ทอื่นๆที่เหลือครับผม ตารางก็ไม่แน่นอนอ่ะ ผมได้ TOEIC 700 (R415, L385) แต่ได้ IELTS Academic 5.5 (L6,R6,W5.5,S5) ผมเตรียม Reading, Listening จาก Cambridge สองอาทิตย์ก่อนสอบ แล้วก็พาร์ท Writing, Speaking เตรียมแค่ 3 วันครับ มาแชร์เทคนิคคร่าวๆครับ อ๋อ ถ้าสอบของ IDP มันสามารถเลือกได้ว่าจะสอบ Speaking วันไหน ผมเลือกสอบวันถัดไปครับ อันนี้คือข้อดีของ Speaking เพราะผมก็เตรียมตัวหลังจากสอบเสร็จตอนเย็น แฮ่ะๆ

อย่างที่คุณ Sarukesung ว่าเลยครับ จริงๆแล้วผมว่ามันต่างกันเพราะมันเป็น Test คนละประเภทกันวัดผลได้ไม่เหมือนกันแหละครับ ดังนั้นคะแนนน TOEIC ก็จะไม่ reflect คะแนน IELTS มากเท่าไหร่ เพราะ 4 skills คือฟัง พูด อ่าน เขียน ของแต่ละคนนี่ต่างกัน คือ บางคนอาจจะพูดและเขียนเก่งกว่าอ่านและฟัง ไปสอบ TOEIC อาจได้ไม่เยอะมาสอบ IELTS อาจได้ดีกว่าก็ได้ ดังนั้นก็ดูไว้เป็นแนวทาง และไปอ่านหนังสือ IELTS เตรียมไว้แล้วลุยเลยครับ :>

http://secure.vec.bc.ca/toefl-equivalency-table.cfm ตามลิงค์ข้างบน :) มันจะเป็น conversion table คะ คือมันออกแนวไม่เป๊ะ ตามที่คุณเกมส์บอกอะค่ะ ส่วนเราได้ toeic 715 แต่พอไปสอบ ielts เหลือ overall band 5 ดันไปตก writing ค่ะ ถ้าตาม score ข้างบน จะเห็นว่าถ้า 700 นี่น่าจะได้ 5.5 - 6 แต่ความเป็นจริงได้ toeic มันไม่มี part Writing และ Speaking มันค่อนข้างจะเทียบกันยาก ยังไงฝึกเยอะๆคะ ไม่ยากเกินความสามารถ เราเตรียมจะสมัครปีนี้เหมือนกัน ^^ โชคดีค่ะ

จริงๆแล้วมันมีตารางเทียบอยู่ครับ แต่ไม่แม่นเท่าไหร่หรอก แค่คร่าวๆ ส่วนตัวผมว่า 500 ปลายๆนี่ก้น่าจะได้ราวๆ 4.5-5 ครับ ไม่น่าจะต้องกังวลอะไร ส่วนที่ว่ายังไม่เตรียมแล้วจะสอบ เมษา หรือ พค. ก็ยังมีเวลาให้เตรียมเหลือเฟือครับ เค้าจะเปิดรับช่วงกค. ดังนั้นถ้าได้ก่อนกค.ก็ทัน แต่สอบไว้เนิ่นๆได้ก็จะดีกว่าครับ