Financial
โดย : Adminstrator




ประเภทของการยื่นขอวีซ่านักเรียน แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. Paper ยื่นขอวีซ่าผ่าน VFS (หน่วยงานกลางเพื่อการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย ) ซึ่ง VFS จะทำหน้าที่ส่งต่อเอกสารวีซ่าไปที่สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เพื่อพิจารณาใบสมัคร คอร์สเรียนที่ยื่นขอวีซ่าเป็น Paper ได้แก่ เรียนภาษา (English Programs) เรียนอนุปริญญา (Diploma)

2. Online ยื่น ขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ของเว็บไซต์สถานทูตออสเตรเลีย ซึ่งใบสมัครและเอกสารต่างๆ จะถูกส่งไปยังสถานทูตออสเตรเลียที่เมือง Perth เพื่อพิจารณา คอร์สเรียนที่ยื่นขอวีซ่าเป็น Online สำหรับประเทศไทย ได้แก่ เรียนมัธยม (Secondary School) เรียนปริญญาตรี (Bachelor) เรียนปริญญาโท (Master) เรียนปริญญาเอก (Doctoral)

เหตุผลที่วิธีการและหลักฐานในยื่นวีซ่าแตกต่างกันเพราะทางสถานทูตออสเตรเลียได้จัด ความเสี่ยงในการยื่นขอวีซ่าของคอร์สเรียนที่ลงเรียนของแต่ละประเทศให้มี ระดับความเสี่ยงแตกต่างกันตามประวัติที่การยื่นขอวีซ่าที่ผ่านมาของประเทศ นั้นๆ

โดยแบ่งเป็นระดับ 1-3 เรียกว่า Assessment Level ได้แก่

3 = ความเสี่ยงมาก
2 = ความเสี่ยงปานกลาง
1 = ความเสี่ยงน้อย

สำหรับคอร์สเรียน สถานทูตมีเกณฑ์การแบ่งประเภทที่เรียกว่า Visa Subclass โดยมีรายละเอียดดังนี้

570 – Independent ELICOS ย่อมาจาก English Language Intensive Courses for Overseas Students คือคอร์สเรียนภาษาทั่วไปสำหรับนักเรียนต่างชาติ

571 – Schools - ระดับประถม มัธยม

572 – Vocational Education and Training (VET) - ระดับอนุปริญญา / วิชาชีพ

573 – Higher Education - ระดับมหาวิทยาลัย เช่น ปริญญาตรี ปริญญาโท (Coursework)

574 – Postgraduate Research - ระดับปริญญาโทแบบ Research และ ปริญญาเอก

ตัวอย่างระดับความเสี่ยงของแต่ละประเทศ (Assessment Level)

ประเทศผู้ขอวีซ่า Subclass 570
เรียนภาษาทั่วไป
Subclass 571
ระดับประถมมัธยม
Subclass 572
ระดับ
อนุปริญญา
Subclass 573
ระดับ
มหาวิทยาลัย
Subclass 574
ระดับ ป.โทป.เอก
เกาหลี
บราซิล

ปากีสถาน
ญี่ปุ่น
ไทย

เวียดนาม
อินเดีย
อินโดนีเซีย
1
2
3
1
2
3
3
2
1
1
3
1
1
2
2
1
1
2
3
1
2
3
3
2
1
1
3
1
1
2
3
2
1
1
2
1
1
1
1
1

จากตาราง ประเทศไทยอยู่ใน Assessment Level ระดับ Level 1 และ Level 2
ดังนั้น

  • เรียนภาษา / Subclass 570 Level 2 ยื่นวีซ่า Paper
  • เรียนวิชาชีพ / Subclass 572 Level 2 ยื่นวีซ่า Paper
  • เรียนระดับประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ป.โท ป.เอก / Subclass 573 Level 1 ยื่นวีซ่า Online



กรณีที่ลงเรียนแบบแพ็คเก็จกันหลายคอร์ส สถานทูตจะพิจารณาจาก Visa Subclass ที่มี Assessment Level สูงสุดของคอร์สที่ลงเรียน (ยกเว้นคอร์สเรียนภาษา)



จากตัวอย่างที่ 1 และ 2 เมื่อเรียนคอร์สภาษาที่แพ็คเก็จกับคอร์สอื่นๆ จะไม่มีผล จึงนับให้เป็น Level 1 ยื่นวีซ่าแบบ Online
จากตัวอย่างที่ 3 - 5 พิจารณาได้ว่าแพ็คเก็จที่มี Assessment Level สูงสุดก็คือ Level 2 ดังนั้นจึงต้อง ยื่นวีซ่าแบบ Paper

หมายเหตุ
จากตัวอย่างที่ 4 และ 5 หากสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยที่มี SVP (Streamlined Visa Processing) จะได้รับการยกเว้นให้เป็น Level 1 ทันที โดยไม่ต้องพิจารณาคอร์สที่มี Assessment Level สูงสุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Beyond Study Center

SVP

คืออะไร

คือโปรแกรมพิเศษสำหรับสถาบันที่ร่วมมือกับสถานทูต ให้นักเรียนไม่ว่ามาจาก Assessment level ไหนให้เป็นระดับคล้ายๆ Assessment Level 1 โดยอัตโนมัติ ซึ่งมีผลดีกับผู้สมัครคือ จะทำให้ขอวีซ่าเเบบ SVP จะไม่เข้มงวดเท่าการยื่นแบบเปเปอร์ ใช้เอกสารน้อยลง ในเบื้องต้นไม่ต้องโชว์หลักฐานการเงินย้อนหลัง(หรือโชว์ไม่เกิน 3 เดือนในบางกรณี) ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าโรงเรียนหรือสถานทูตมีสิทธิในการเรียกดูหากต้องการพิจารณาเพิ่มเติม

หากเป็นระดับปริญญา สถานทูตเรียกสถาบันเหล่านี้ว่า SVP Partner สถาบัน SVPจะหมายถึงสถาบันระดับปริญญา (คือรวมทุกมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียเเละวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรปริญญาในลิสต์)

หากเป็นระดับ Advanced Diploma (ระดับวิชาชีพขั้นสูง หรือ ปวส.)สถานทูตเรียกสถาบันเหล่านี้ว่า Extended VET SVP ซึ่งจะเป็นสถาบันที่สถานทูตคัดเลือกทั้ง 55สถาบันดังนี้เท่านั้น

รายชื่อของ SVP Partner และ Extended VET SVP Partner สามารถตรวจสอบได้ดังนี้

SVP and Extended VET SVP Partners

สถาบันที่เป็น SVP Partner นั้นได้รับความไว้วางใจจากสถานทูตให้คัดเลือกนักเรียนในเบื้องต้นเพื่อพิจารณาในการรับเข้าเรียน ดังนั้นในการสมัครเรียนคอร์สเรียนที่เป็น SVP นั้นจะมีขั้นตอนที่ต้องพิจารณามากกว่าสมัครเรียนแบบยื่นวีซ่าเปเปอร์ แต่เมื่อโรงเรียนตอบรับเข้าเรียนแล้วในขั้นตอนของการยื่นขอวีซ่าออนไลน์นั้นก็จะง่ายกว่าการยื่นแบบเปเปอร์ เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้เป็นเหมือนตัวแทนของสถานทูตในเบื้องต้น และสถานทูตมีความไว้วางใจในการรับเข้าเรียนของโรงเรียนเหล่านั้น ทำให้สถานทูตไม่เข้มงวดในการพิจารณามากเท่าการยื่นแบบเปเปอร์




ต้องมีหลักฐานซึ่งแสดงว่า ท่านมีทุนทรัพย์ส่วนตัวที่เพียงพอ หรือสามารถหาทุนทรัพย์เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของตัวท่านเอง (และสมาชิกในครอบครัว หมายถึง สามี ภรรยา และบุตร แม้ไม่มีความประสงค์จะเดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียพร้อมกับท่าน) ในระยะเวลา 12 เดือนแรกของการศึกษาและอยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลีย

ประเภทค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายต่อคน คิดตามอัตราค่าเงิน AUD$
ค่าเดินทาง ตัวเอง
คนในครอบครัว
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับออสเตรเลีย
ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ต่อคน
ค่าเรียน ตัวเอง
บุตร อายุ 5-18 ปี
ค่าเรียนที่ค้างชำระในระยะเวลา 12 เดือนแรก
8,000 ดอลลาร์ต่อปี
ค่าครองชีพ


ตัวเอง
คู่สมรส
บุตรคนแรก
บุตรคนที่เหลือ
18,610 ดอลลาร์ต่อปี
6,515 ดอลลาร์ต่อปี
3,720 ดอลลาร์ต่อปี
2,790 ดอลลาร์ต่อปี


ข้อกําหนดด้านการเงิน อ้างอิงจาก http://www.immi.gov.au/Visas/Pages/570.aspx ปี 2014



ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายตามสูตรข้างต้น



หมายเหตุ

*

จำนวนเงินที่คำนวณข้างต้นเป็นจำนวนที่แสดงว่าท่านมีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย ไม่ใช่จำนวนเงินค่าเรียนที่ต้องชำระ
* สำหรับ Assessment Level 1 และ 2 ระยะเวลาสูงสุดที่นำมาคำนวณ Statement คือ 1 ปี



การแสดงหลักฐานด้านการเงินเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายนั้น จะเป็นในรูปแบบใดก็ได้ที่มีสภาพคล่องเท่ากับเงินสด ยกเว้น เงินสดที่ไม่ได้ฝากในบัญชีธนาคาร ทรัพย์สินที่ไม่สามารถนำมาใช้จ่าย รวมถึงใบหุ้น พันธบัตรรัฐบาล อสังหาริมทรัพย์ การแสดงหลักทรัพย์เพื่อให้พิจารณาจะกระทําได้ในกรณีที่หลักทรัพย์นั้นได้ผันแปรเป็นหลักฐานด้านการเงินในรูปแบบที่ใช้เป็นการวางมัดจําหรือค้ำประกันการกู้ ยืม หรือรูปแบบของเงินฝากธนาคาร

สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ยื่นตัวจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด ย้อนหลัง 6 เดือน อัพเดทล่าสุด

ประเภทบัญชี
บัญชีเงินฝากมีหลายประเภท ได้แก่ บัญชีออมทรัพย์, บัญชีเงินเดือน, บัญชีฝากประจำ, บัญชีฝากกระแสรายวัน, บัญชีบริษัท เป็นต้น
ผู้ยื่นขอวีซ่าสามารถยื่นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อแสดงยอดเงินประกอบกันได้หลายเล่ม

ตัวอย่าง รูปแบบของการฝากเงิน


1. บัญชีเงินนอน
บัญชีที่มีการฝากสะสมเงินเพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต บัญชีประเภทนี้ผู้ฝากมักจะฝากไว้เป็นระยะเวลานานและไม่ค่อยมีการถอนเงินมาใช้ อาจจะฝากในรูปแบบบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากประจำซึ่งให้ดอกเบี้ยสูง

2. บัญชีเงินหมุน
เป็นบัญชีเงินฝากที่ใช้ในธุรกิจ ซึ่งมีลักษณะการฝาก - ถอนเงินเป็นประจำ เพื่อนำมาใช้ดำเนินกิจการ เช่น บัญชีกระแสรายวัน, บัญชีบริษัท เป็นต้น

3. บัญชีเงินก้อน
เป็นบัญชีที่มีการฝากเงินจำนวนมากในครั้งเดียวในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือนก่อนยื่นวีซ่า เช่น เงินที่มาจากการขายที่ดิน รถยนต์ ทรัพย์สินที่มีค่า หรือเงินที่ได้จากมรดก ฯลฯ สำหรับการใช้บัญชีเงินก้อนเพื่อยื่นขอวีซ่านั้น จะต้องยื่นพร้อมหลักฐานที่มาของเงินที่น่าเชื่อถือด้วย
ตัวอย่าง 1. เงินก้อนที่ได้มาจากการถอนสลากออมสินก่อนกำหนด จะต้องมีเอกสารการถอนเงินก่อนกำหนดที่ทางธนาคารออกให้
ตัวอย่าง 2. เงินก้อนที่ได้มาจากการขายที่ดิน จะต้องมีหนังสือสัญญาขายที่ดินและเอกสารที่ออกโดยกรมที่ดิน เช่น โฉนดที่มีการเปลี่ยนชื่อ

ข้อควรระวัง
ใบหุ้น, กองทุนรวม, ตั๋วแลกเงิน, ตราสารหนี้, พันธบัตรรัฐบาล, สลากออมสิน, อสังหาริมทรัพย์, รถยนต์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ
จะต้องผันแปรมาเป็นรูปแบบของเงินฝากธนาคารแล้ว และมีเอกสารรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรหน่วยงานหรืองค์กรที่น่าเชื่อถือ

เงินฝากหรือการลงทุนระยะยาว เช่น กองทุน LTF, สลากออมสิน, พันธบัตรรัฐบาล ฯลฯ ที่ถอนก่อนครบกำหนด
จะต้องมีใบถอนก่อนกำหนดหรือเอกสารที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกให้เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงที่มาของรายได้

สินเชื่อ OD
จะต้องมีเครดิตที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามที่สถานทูตกำหนด


ขายทอง / เพื่อนคืนเงิน
ไม่แนะนำให้ใช้เป็นหลักฐานการเงินเพื่อยื่นขอวีซ่า เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือน้อย




ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ / พนักงานบริษัท
• หนังสือรับรองเงินเดือน, หนังสือรับรองการเป็นพนักงาน
• สลิปเงินเดือน
• บัตรข้าราชการ, บัตรข้าราชการเกษียณอายุ
• ใบเสียภาษีเงินได้

นิติบุคคล
• หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล / หนังสือบริคณห์สนธิ
• ทะเบียนผู้ถือหุ้น, ใบทะเบียนพาณิชย์
กรณีไม่ได้จดทะเบียน
• เอกสารประกอบอื่นๆ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบส่งของ ใบสั่งซื้อสินค้า ฯลฯ

หลักฐานที่มาจากการขายสินทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน รถยนต์ ฯลฯ
• สำเนาสัญญาซื้อขาย, สัญญาเช่า, ใบเสร็จรับเงิน, ใบกำกับภาษี
• สำเนาหลักฐานการผ่อนชำระเงินดาวน์ / เงินมัดจำ (ถ้ามี)
• หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ



ผู้สนับสนุนด้านการเงิน (สปอนเซอร์)

  • ควรเป็นบุคคลที่มีหลักฐานความสัมพันธ์อย่างชัดเจน เช่น พ่อ-แม่, ลุง-ป้า, น้า-อา เป็นต้น หากเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน เช่น กรณีการรับอุปการะบุตรบุญธรรม ควรมีหลักฐานรับรองการอุปการะบุตร หรือหลักฐานใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นได้เคยให้การสนับสนุนมาโดยตลอด
  • ควรมีฐานะทางการเงินที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามที่สถานทูตกำหนด และมีอาชีพการงาน หรือสถานะทางการเงินที่น่าเชื่อถือ
ตัวอย่าง กรณีสปอนเซอร์ที่ไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน

นายณเดช สุขสันต์ ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยให้คุณลุง (นายหนวด ใจดี) เป็นสปอนเซอร์ ซึ่งนายณเดช และลุงหนวด ไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน เนื่องจากคุณแม่ (นางนิด สุขสันต์) ได้แต่งงาน และจดทะเบียนสมรสไปใช้นามสกุลของคุณพ่อ (นายดี สุขสันต์)
ดังนั้น จึงต้องแสดงหลักฐานว่าลุงและแม่ เป็นพี่น้องกันจริงๆ โดยใช้ทะเบียนบ้านที่มีชื่อบิดา มารดา คือนายชื่น และนางชม ที่ตรงกันและใบทะเบียนสมรสหรือหนังสือเปลี่ยนนามสกุลของนางนิด

สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากทาง Beyond Study หรือ Thai Wah Club
Created by Vnuch, Graphic : Beyond Study Center, Feb 2014

Social Network


Advertrising

การเตรียมหลักฐานทางการเงินเพื่อยื่นขอวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย