ต้องมีหลักฐานซึ่งแสดงว่า ท่านมีทุนทรัพย์ส่วนตัวที่เพียงพอ หรือสามารถหาทุนทรัพย์เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของตัวท่านเอง ในระยะเวลา 12 เดือนแรกของการศึกษาและอยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลีย
ประเภทค่าใช้จ่าย |
ค่าใช้จ่ายต่อคน |
คิดตามอัตราค่าเงิน AUD$ |
ค่าเดินทาง |
ตัวเอง คนในครอบครัว |
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับออสเตรเลีย ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ต่อคน |
ค่าเรียน |
ตัวเอง บุตร อายุ 5-18 ปี |
ค่าเรียนที่ค้างชำระในระยะเวลา 12 เดือนแรก 8,000 ดอลลาร์ต่อปี |
ค่าครองชีพ
|
ตัวเอง คู่สมรส บุตรธิดา |
21,041 ดอลลาร์ต่อปี 7,362 ดอลลาร์ต่อปี 3,152 ดอลลาร์ต่อปี |
ข้อกําหนดด้านการเงิน อ้างอิงจาก สถานทูตออสเตรเลีย
ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายตามสูตรข้างต้น
หมายเหตุ
*
|
จำนวนเงินที่คำนวณข้างต้นเป็นจำนวนที่แสดงว่าท่านมีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย ไม่ใช่จำนวนเงินค่าเรียนที่ต้องชำระ |
* |
สำหรับ Assessment Level 1 และ 2 ระยะเวลาสูงสุดที่นำมาคำนวณ Statement คือ 1 ปี |
การแสดงหลักฐานด้านการเงินเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายนั้น จะเป็นในรูปแบบใดก็ได้ที่มีสภาพคล่องเท่ากับเงินสด ยกเว้น เงินสดที่ไม่ได้ฝากในบัญชีธนาคาร ทรัพย์สินที่ไม่สามารถนำมาใช้จ่าย รวมถึงใบหุ้น พันธบัตรรัฐบาล อสังหาริมทรัพย์ การแสดงหลักทรัพย์เพื่อให้พิจารณาจะกระทําได้ในกรณีที่หลักทรัพย์นั้นได้ผันแปรเป็นหลักฐานด้านการเงินในรูปแบบที่ใช้เป็นการวางมัดจําหรือค้ำประกันการกู้ ยืม หรือรูปแบบของเงินฝากธนาคาร
สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร จะใช้เป็น Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน อัพเดทล่าสุด
ประเภทบัญชี บัญชีเงินฝากมีหลายประเภท ได้แก่ บัญชีออมทรัพย์, บัญชีเงินเดือน, บัญชีฝากประจำ, บัญชีฝากกระแสรายวัน, บัญชีบริษัท เป็นต้น ผู้ยื่นขอวีซ่าสามารถยื่นบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อแสดงยอดเงินประกอบกันได้หลายบัญชี
ตัวอย่าง รูปแบบของการฝากเงิน
1. บัญชีเงินนอน บัญชีที่มีการฝากสะสมเงินเพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต บัญชีประเภทนี้ผู้ฝากมักจะฝากไว้เป็นระยะเวลานานและไม่ค่อยมีการถอนเงินมาใช้ อาจจะฝากในรูปแบบบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากประจำซึ่งให้ดอกเบี้ยสูง
2. บัญชีเงินหมุน เป็นบัญชีเงินฝากที่ใช้ในธุรกิจ ซึ่งมีลักษณะการฝาก - ถอนเงินเป็นประจำ เพื่อนำมาใช้ดำเนินกิจการ เช่น บัญชีกระแสรายวัน, บัญชีบริษัท เป็นต้น
3. บัญชีเงินก้อน เป็นบัญชีที่มีการฝากเงินจำนวนมากในครั้งเดียวในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือนก่อนยื่นวีซ่า เช่น เงินที่มาจากการขายที่ดิน รถยนต์ ทรัพย์สินที่มีค่า หรือเงินที่ได้จากมรดก ฯลฯ สำหรับการใช้บัญชีเงินก้อนเพื่อยื่นขอวีซ่านั้น จะต้องยื่นพร้อมหลักฐานที่มาของเงินที่น่าเชื่อถือด้วย ตัวอย่าง 1. เงินก้อนที่ได้มาจากการถอนสลากออมสินก่อนกำหนด จะต้องมีเอกสารการถอนเงินก่อนกำหนดที่ทางธนาคารออกให้ ตัวอย่าง 2. เงินก้อนที่ได้มาจากการขายที่ดิน จะต้องมีหนังสือสัญญาขายที่ดินและเอกสารที่ออกโดยกรมที่ดิน เช่น โฉนดที่มีการเปลี่ยนชื่อ
ข้อควรระวัง ใบหุ้น, กองทุนรวม, ตั๋วแลกเงิน, ตราสารหนี้, พันธบัตรรัฐบาล, สลากออมสิน, อสังหาริมทรัพย์, รถยนต์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ จะต้องผันแปรมาเป็นรูปแบบของเงินฝากธนาคารแล้ว และมีเอกสารรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรหน่วยงานหรืองค์กรที่น่าเชื่อถือ
เงินฝากหรือการลงทุนระยะยาว เช่น กองทุน LTF, สลากออมสิน, พันธบัตรรัฐบาล ฯลฯ ที่ถอนก่อนครบกำหนด จะต้องมีใบถอนก่อนกำหนดหรือเอกสารที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกให้เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงที่มาของรายได้
สินเชื่อ OD จะต้องมีเครดิตที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามที่สถานทูตกำหนด
ขายทอง / เพื่อนคืนเงิน ไม่แนะนำให้ใช้เป็นหลักฐานการเงินเพื่อยื่นขอวีซ่า เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือน้อย |
|
ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ / พนักงานบริษัท • หนังสือรับรองเงินเดือน, หนังสือรับรองการเป็นพนักงาน • สลิปเงินเดือน • บัตรข้าราชการ, บัตรข้าราชการเกษียณอายุ • ใบเสียภาษีเงินได้
นิติบุคคล • หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล / หนังสือบริคณห์สนธิ • ทะเบียนผู้ถือหุ้น, ใบทะเบียนพาณิชย์ กรณีไม่ได้จดทะเบียน • เอกสารประกอบอื่นๆ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบส่งของ ใบสั่งซื้อสินค้า ฯลฯ
หลักฐานที่มาจากการขายสินทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน รถยนต์ ฯลฯ • สำเนาสัญญาซื้อขาย, สัญญาเช่า, ใบเสร็จรับเงิน, ใบกำกับภาษี • สำเนาหลักฐานการผ่อนชำระเงินดาวน์ / เงินมัดจำ (ถ้ามี) • หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ
ผู้สนับสนุนด้านการเงิน (สปอนเซอร์)
- ควรเป็นบุคคลที่มีหลักฐานความสัมพันธ์อย่างชัดเจน เช่น พ่อ-แม่, ลุง-ป้า, น้า-อา เป็นต้น หากเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน เช่น กรณีการรับอุปการะบุตรบุญธรรม ควรมีหลักฐานรับรองการอุปการะบุตร หรือหลักฐานใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นได้เคยให้การสนับสนุนมาโดยตลอด
- ควรมีฐานะทางการเงินที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามที่สถานทูตกำหนด และมีอาชีพการงาน หรือสถานะทางการเงินที่น่าเชื่อถือ
ตัวอย่าง กรณีสปอนเซอร์ที่ไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน
นายณเดช สุขสันต์ ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยให้คุณลุง (นายหนวด ใจดี) เป็นสปอนเซอร์ ซึ่งนายณเดช และลุงหนวด ไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน เนื่องจากคุณแม่ (นางนิด สุขสันต์) ได้แต่งงาน และจดทะเบียนสมรสไปใช้นามสกุลของคุณพ่อ (นายดี สุขสันต์) ดังนั้น จึงต้องแสดงหลักฐานว่าลุงและแม่ เป็นพี่น้องกันจริงๆ โดยใช้ทะเบียนบ้านที่มีชื่อบิดา มารดา คือนายชื่น และนางชม ที่ตรงกันและใบทะเบียนสมรสหรือหนังสือเปลี่ยนนามสกุลของนางนิด
|