แชร์ประสบการณ์สอบ IELTS Speaking ให้ได้ 8.5 + Writing 8.0 

ก่อนนี้มีเขียนภาษาอังกฤษไปแล้วรอบนึง 

นี่เอามาสรุปเป็นภาษาไทยให้ด้วยสำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวและต้องการแบนด์สูงๆนะครับ

ทั่วไปแล้วอาจจะไม่เยอะคนมากที่ต้องการแบนด์สูงระดับ 8.0 แต่สำหรับคนที่ต้องการย้ายถิ่นนฐานเช่นขอวีซ่าถาวรในประเทศต่างๆตรงนี้ช่วยเยอะจริงๆครับ (ทั้งนี้ผมสอบเพราะปกติสอนน้องๆที่จะไปออสเตรเลียอยู่แล้ว อันนี้สอบเพราะจะไปอัพเดท และไปลองด้วยว่าสิ่งที่สอนไป นำใช้ในห้องสอบได้จริง) 

เริ่มจาก Band ที่คิดว่าน่าจะยากที่สุดสำหรับหลายๆคนในการทำ band 8.0 ก่อนคือ Writing

  1) เข้าใจ marking criteria ของการสอบ และลองดูใน rubics ว่าเรา “น่าจะ” อยู่ตรงไหนในสี่อย่างที่เค้าดู 

  2) สี่อย่างที่ว่าคือเรื่องของ คำศัพท์ แกรมมาร์ การตอบโจทย์ที่ครบถ้วน และความมี structure ความอ่านง่ายของงานเขียน แบบละเอียดดูที่นี่ครับ 

  Task 1 คลิก

  Task 2 คลิก

  3) ผมค่อนข้างแนะนำว่าแบนด์สูงๆควรใช้คนที่เก่งๆไปเลยมาตรวจให้และดูไปเลยว่าทั้งสี่ criteria เราอยู่ตรงไหน น่าจะได้คะแนนเท่าไหร่และขาดอะไร 

  4) หลายๆคนที่ภาษาดีประมาณนึงแล้ว (ผมเองก็เคยเป็น) แต่จะมี band ที่ไปติด เช่น ไม่ถึง 7.0 สักที อะไรแบบนี้ ตรงนี้จะเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดมากถ้าสอบไปหลายรอบแล้วยังได้ 6.5 ซ้ำๆ ตรงนี้แนะนำว่าต้องเข้าใจตัวเทสจริงๆและไม่พยายามไปจำ template / format อะไรให้ซับซ้อนครับ

  5) grammar เราต้องใช้ให้หลากหลาย และถูกต้อง ในระดับแบนด์ 8.0 นี่เค้าจะบอกว่า majority ของประโยคจะเป็นประโยคแบบ error-free = ไม่ผิดเลย เท่ากับว่าการพยายามเขียนให้ดูยากนี่แต่มันผิดแทนที่จะช่วยกลับไปลดคะแนนซะมากกว่า ดังนั้นต้องใช้อันที่มั่นใจจริงๆเท่านั้นครับ 

  6) การตอบโจทย์ : โจทย์ของ IELTS มีหลายแบบ แต่ละแบบมีการตอบที่ไม่เหมือนกัน คำถามต้องอ่านอย่างละเอียด เช่น คำถามนี้เป็น plural มั้ย โจทย์ประเภทแบบ agree / disagree ส่วนตัวว่าเป็นประเภทที่ง่ายที่สุดและ outweigh เป็นประเภทที่ยากที่สุด หมายถึง agree/ disagree เราอาจจะตอบใน paragraph นึงเป็นเหตุผลนึงไปเลย มี topic sentence / explaination / example และถ้าจะเน้นแบนด์สูงๆก็แนะนำให้มีประโยค summary ที่อาจจะลิงค์ไอเดียไปอีก (ใช้ Acroynym PEEL : P = Point , E = Explain , E = Example และ L = Link)  Agree / disagree เราเขียนแบบนั้น 2 ชุด (2 paragraphs ) พอครับ แต่ outweigh จะไม่แนะนำแค่ 2 เซตเเค่นั้น ดังนั้นต้องเข้าใจโจทย์ให้ดีว่าเค้าถามอะไร และแต่ละแบบต้องตอบให้ครบถ้วนอย่างไรบ้าง

  7) เหลือเวลาไว้ทวนเสมอ ไม่ว่าจะเเม่นเเล้วขนาดไหนก็ตามเราก็ยังผิดพลาดกันได้ 5 นาทีสุดท้ายที่เรากลับมาตรวจงานเราได้ จะช่วยคะแนนเยอะพอควรครับ 

  8 ) การส่ง essay ให้คนตรวจ (Essay Correction Service) ผมแนะนำสองเจ้าคือ IDP Australia กับ IELTS Online Tests  มีเขียนรีวิวไว้ครับ

  รีวิวลองทำข้อสอบ IELTS 4 พาร์ท พร้อมตรวจ essay โดย IELTS Progress Check จาก IDP

  รีวิวการใช้เว็บไซต์ช่วยตรวจข้อสอบ IELTS พาร์ท Writing

แม่น เร็ว ราคาสมเหตุสมผล feedback ละเอียด สอบถามเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ทั้งสองเจ้าก็ถือว่าราคาค่อนข้างสูงครับ

  9) แนะนำว่าควรจะเผื่อๆคะแนนไว้ตอนซ้อมว่าตอนสอบน่าจะได้น้อยกว่าด้วย เช่น สมมติตอนซ้อมให้เค้าตรวจแล้วได้ 7.0 เราอาจจะไปทำจริงได้ 6.5 ตรวจแล้วได้ 7.5 เราอาจจะทำได้ 7.0 เช่นกันถ้าอยากได้ 8.0 ก็แนะนำว่าตอนซ้อมควรจะให้เค้าตรวจแล้วได้สัก 8.5 ก่อนครับ เพราะวันสอบจริงจะมีความไม่แน่นอนนู่นนี่เกิดขึ้นได้อีก โจทย์ยาก คิดไม่ออก สภาพไม่พร้อมต่างๆนาๆ (อย่างของ IELTS Online Tests มาร์คให้ผมเป็น 8.5/9.0 ใน Task 2 / Task 1 ตามลำดับ ไปสอบจริงก็ถึง 8.0 ตลอดได้ เกินมั้ยอยู่ที่หลายๆอย่าง)

  10) สุดท้ายไม่มีทางลัดใดๆจริงๆครับ เลเวลสูงๆเป็นเลเวลที่ละเอียดมาก เช่น การเชื่อมเนื้อหาแบบที่ firstly , secondly ไรงี้ ก็จะดู mechanical คือดูแล้วรู้ว่าใส่มาเพื่ออยากให้อ่านง่าย ข้อแนะนำระดับ 8.0 คือต้องใช้แบบที่ไม่ attract attention เท่าไหร่แล้ว (ถ้า 9.0 เค้าจะบอกว่า attract no attention) ประมาณนี้ครับ 

การทำคะแนนให้ได้คะแนนแบนด์สูงๆสำหรับการเขียน โดยรวมคือเข้าใจ criteria ทุกอย่างให้หมด ไม่จำ template อะไรแปลกๆ ไป ใช้ professional ตรวจให้จะช่วยเยอะครับ 

2) Speaking : สำหรับคะแนนแบบแบนด์ 8.5 นะครับ ถ้าสรุปเป็นข้อๆเหมือนกันนะครับ 

  1) เข้าใจ Marking Criteria ของ Speaking อย่างชัดเจน 

  2) จะมี 4 ข้อคือ Fluency and Coherence ,Grammatical Range and Accuracy, Lexical Resource และ Pronunciation ให้เข้าใจว่าแต่ละแบนด์ของแต่ละ criteria ดูยังไงบ้าง 

ดูตัวละเอียดได้ที่นี่ครับ คลิก

  3) Fluency and Coherence พูดคล่อง ไม่ติดขัด ตรงที่ติดก็คือจะเกี่ยวกับเนื้อหาเป็นหลัก ไม่ใช่นึกศัพท์หรือแกรมมาร์ ตรงนี้ต้องคิดเร็ว และ process เร็วออกมาเป็นคำพูดได้ครับ เนื้อหาฟังง่าย เข้าใจอะไรเป็นลำดับขั้นตอนได้ง่าย 

3) Grammar : 

  - จะต้องหลากหลายและถูกต้อง หลากหลายในความหมายว่าใช้ tenses ต่างๆได้ทั้งที่แบบปกติ อดีต ปัจจุบัน และอะไรที่ไม่ common ได้บ้าง เช่น future perfect continuous (แต่ต้องไปดู force ด้วย) 

  - ใช้รูปประโยคที่หลากหลาย complex sentences ที่มีหลายแบบ

  - Speaking เป็นเทสที่ไปเร็วมาก จริงๆคิดว่าคงไม่มีเวลาคิดว่าประโยคไหนเป็น simple, compound หรือ complex ขนาดนั้น แต่ถ้าใช้ได้คล่องแบบเป็นธรรมชาติก็จะมีประโยคความซ้อนอยู่แล้วประมาณนึง 

  - Structures อื่นๆที่ซับซ้อน Second conditional เป็นต้น ที่สำคัญคือต้องใช้แล้วถูกต้องด้วย 

  - การที่เรามีประโยคที่ผิดเล็กน้อยตลอด แสดงไปถึงการมี systematic errors (ผิดเพราะไม่เข้าใจแกรมมาร์นั้น ไม่ได้เผลอหลุด) ตรงนี้จะทำให้ได้แบนด์สูงยากสำหรับส่วนของแกรมมาร์ครับ 

  4) ศัพท์ ที่เราใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งแบบศัพท์ทั่วไปและ uncommon topic related vocabulary รวมถึงการใช้ idiomatic / colloquial language ตลอดจน collocation จะช่วยเราเยอะมากครับ แน่นอนว่าต้องใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมด้วย 

  5) Pronunciation features ต่างๆ ในระดับคำ ระดับประโยคต่างๆจะช่วยเยอะครับ 

  6) ฟังอะไรที่ native speakers พูดเยอะๆในหลายๆ context คอยสังเกต structure สังเกตศัพท์ที่เค้าใช้ 

  7) นำศัพท์ที่สังเกตมาลองใช้ดูจริงๆ หลายๆครั้งจะเจอน้องๆที่ท่องศัพท์แล้วบอกว่า โห คำนี้ผมก็รู้พี่ แต่นึกไม่ออกตอนนั้นการนำมาใช้ไม่ได้ในสถานการณ์ที่ต้องใช้คือสิ่งที่เราต้องฝึกเพื่อแก้ไขกันครับ มีคำไหนอยากใช้ ลองใช้ ลองออกเสียง ลองแต่งประโยคดูก่อน อย่าท่องอย่างเดียวนั่นเอง 

  8 )หาคนตรวจให้ คนที่ภาษาแม่นๆให้คำแนะนำเราได้จริงครับ อันนี้ผู้สอนที่เก่งๆจะแนะนำได้ไม่ยากว่าจุดอ่อนเราคืออะไร (IELTS Online Tests ก็มี หรือบางช่วง IDP/BC จะมี mock up ของ Speaking ดีมากๆเช่นกัน)

  9) One step at a time ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองอยู่เลเวลไหน แล้วเราค่อยพัฒนาเพิ่มเติมกันครับ มีทำกรุ๊ปเตรียมตัว IELTS ไว้ ถ้าสนใจสอบถามเพิ่มเติมไว้ทางเพจไทยวาคลับได้ครับ 

  ถ้าสนใจสอบถามเพิ่มเติม ถามทางนี้ได้ครับ สอบภาษาอังกฤษเตรียมย้ายประเทศ (IELTS,PTE,etc)  by Thaiwahclub หรือถามมาทาง Thaiwahclub ก็ได้ครับ 

  ดูรายละเอียดคอร์สอื่นๆ ที่เปิดลงทะเบียน คลิก

  แถม LIVE ที่พูดเรื่องทำให้ได้ 8.0+ ครับ คลิก

  ส่วนถ้าจะเรียนด้วยกันหรืออยากลองฟัง feedback แบบ one on one ครับ คลิก