ข่าวสาร >
2019
January
9
แชร์ประสบการณ์ทำงานออฟฟิศด้วยด้วยวีซ่า Wah โดย คุณโรส ประภาวรินทร์
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 11802 คน )

    บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับคุณโรส ประภาวรินทร์ สุขนภาสวัสดิ์ ที่ปัจจุบันได้ทำงานเป็น Student Walfare Officer กับ Academic Support ในสถาบันสอนที่ซิดนีย์ Warwick Institute of Australia ด้วยวีซ่า Work and Holiday 

    นอกจากทำงานที่สถาบันสอนแล้วคุณโรสยังทำงานเสริมอีก 2 งาน เรียกได้ว่าทำงานทุกวันเลยจริง ๆ ใครที่จะไป Wah แล้วเป็นสายเก็บเงินเหมือนกัน ตามไปอ่านบทความสัมภาษณ์นี้กันเลยค่ะ

 

Thaiwahclub : แนะนำตัวเองหน่อยค่ะ ชื่ออะไร เรียนจบจากไหน ทำอะไรมาก่อนบ้างคะ

    สวัสดีค่ะ ชื่อ ประภาวรินทร์ สุขนภาสวัสดิ์ ชื่อเล่น โรสค่ะ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สาขา Cosmetic Science ค่ะ

    งานแรกหลังจากจบก็ได้ทำงาน Ground staff ตำแหน่ง Airport Service Officer ของ Hongkong Airlines ค่ะ ทำงานอยู่ที่นี่เกือบ 4 ปี ก่อนที่จะลาออกไป WAH ค่ะ

 

Thaiwahclub : เตรียมตัวสมัครวีซ่า Work and Holiday อย่างไรบ้างคะ

    จริง ๆ เรื่องเตรียมตัวคือแทบไม่ได้เตรียมอะไรเลยค่ะ เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมกดอย่างเดียว เพราะที่มหาวิทยาลัยใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน เลยทำให้สามารถใช้ใบรับรองยื่นแทนผลสอบ IETLS ได้ค่ะ รู้สึกโชคดีกว่าคนอื่น ๆ 

 

Thaiwahclub : กดโควต้าได้ตั้งแต่ปีแรกเลยรึเปล่าคะ มีเคล็ดลับในการกดโควต้าวีซ่าให้ทันยังไงบ้างคะ

    จริง ๆ คือครั้งนี้กดโควต้าได้ครั้งที่ 2 แล้วค่ะ คือครั้งแรกเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนจบมหาวิทยาลัยปีแรกค่ะ ตอนนั้นกดได้ 1 ใน 500 ได้ใบรับรองจาก สท. (ชื่อเดิมของ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)) แต่ไม่ได้ยื่นขอวีซ่าในครั้งนั้น คือตัดสินใจสละสิทธิ์ค่ะ เพราะได้งานสายการบินก่อนค่ะ และอีกอย่างคือยังไม่พร้อมในหลาย ๆ เรื่อง เช่นภาษา และทักษะต่าง ๆ ค่ะ

    เคล็ดลับในการกดโควต้าของหนูคือการคิดบวก ความใจเย็นไม่ตื่นเต้น ไม่ได้ไม่เป็นไร ไม่กดดันตัวเองค่ะ จริง ๆ คืออาจจะเป็นคนดวงดีด้วยก็ได้ เพราะเคยกดให้เพื่อนได้ปีล่ะ 2 คน สองปีติดค่ะ

ก่อนกดวันจริงทางโครงการมีให้ซ้อมกดนะคะ ก็มีไปฝึก อันนี้ช่วยได้เยอะค่ะ เพราะเรารู้แล้วว่าวันจริงต้องกรอกข้อมูลสำคัญ ๆ อะไรบ้าง วันจริงจะได้ไม่ตื่นเต้นมากค่ะ 

 

Thaiwahclub : ตอนนี้คุณโรสทำงานที่ไหน มีตำแหน่งหน้าที่ที่ทำยังไงบ้างคะ

    ตอนนี้มาทำงานที่ Warwick Institute of Australia ค่ะ ตำแหน่ง Student Walfare Officer กับ Academic Support ค่ะ หน้าที่หลัก ๆ คือ Service ต่าง ๆ ให้คำแนะนำด้านการเรียนให้กับนักเรียนที่มีปัญหาค่ะ (คือก็แอบคิดนะคะ มาว่าถึงจุดนี้ได้ยังไง เพราะสมัยเรียนชอบลอกงานเพื่อนค่ะ เรียนไม่ค่อยได้ ขอคำแนะนำจากเพื่อนตลอดค่ะ) ฮ่าๆๆ

    และอีกหนึ่งหน้าที่ ที่ได้รับหลังจากเริ่มงานได้ 2 weeks คือ Academic support คอยช่วยงานของ Course coordinator ค่ะ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบคือ สร้าง Study Plan ทุก course ในแต่ละเทอม, Add time table, สร้าง E-learning material, enroll แต่ละ subjects ของเทอมนั้น ๆ งานค่อนข้างเยอะและละเอียดมากค่ะ 

 

Thaiwahclub : การทำงานที่นี่ช่วงแรกพบเจอปัญหาอะไรมั้ยคะ 

    แน่นอนค่ะ สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน และไม่เคยมีประสบการณ์ด้านงานสถาบันมาก่อน ทำให้เจอปัญหามากมายค่ะ ช่วงแรกตอนเทรนก็จะมีเพื่อนร่วมงานเทรนให้ว่าต้องทำอะไรบ้าง หน้าที่ที่รับผิดชอบ ขอบเขตของงาน เขาสอน เราฟัง เราจด 

    ช่วงแรกเรามาเหมือน Flash Drive ที่เพิ่งแกะกล่องมาใหม่ คือว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย คอยรอแต่ข้อมูล copy-paste มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ ยิ่งมีเรื่องภาษาเข้ามาก็ยิ่งปะติดปะต่อการทำงานไม่ค่อยได้ 

    ช่วงเทรนคือ “จะให้โปรไม่รู้ ย่อมไม่ผิดอยู่ตลอด” เพราะอยู่ในช่วงที่ถามได้ทุกคำถาม คือพยายามเรียนรู้จากเคสตัวอย่างหรือเคสที่เจอค่ะ ขอคำแนะนำจากหัวหน้างานถ้าเรื่องไหนอะไรที่เราไม่แน่ใจ เราจะถามเขาหมดในช่วงที่เทรนงานค่ะ อาจจะมีโดนดุบ้างในบางครั้งแต่เราก็ฟังและจดจำเรียนรู้จากสิ่งที่พลาดมาค่ะ บวกกับพื้นฐานเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย และเรียนรู้ไว ทำให้การทำงานที่นี่ก็ปรับตัวได้เร็วและค่อย ๆสมูธขึ้นมามากค่ะ

 

Thaiwahclub : สายงานที่คุณโรสทำตอนอยู่ไทยค่อนข้างต่างจากที่ทำในออสเตรเลียพอสมควร คิดว่าเป็นปัญหาสำหรับการสมัครงานประเภท skilled occupation ที่ออสเตรเลียของเราไหมคะ

    จริง ๆ มันก็นิดนึงนะคะ เพราะงานแต่ละสายก็มีทักษะแตกต่างกันไป ตอนสมัครงานนี่คือเขาก็ขอคนมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษานะคะ คือเราเองก็จบวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางมา ทำงานสายการบินก็ไม่ตรงกับที่เรียนมา แล้วมาสมัครงานด้านสถาบันการศึกษา ซึ่งดูแล้วมันไม่น่าไปด้วยกันได้เลย สิ่งหนึ่งที่อยากจะสื่อให้ผู้สัมภาษณ์รับรู้คือ ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่เราก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ และจะบอกเขาตลอดว่าเรา fast learning มาก ๆ มีไหวพริบ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี 

    คือสมัครงานที่นี่เชื่อไหมคะ เขาไม่ขอแม้กระทั่งTranscript และ Degree certificate เลยค่ะ เขาไม่ได้สนใจว่าเราจบอะไรมาหรือจบมาจากไหน ก็ยังเชื่อนะคะว่า ถ้าเราตั้งใจทำอะไรสักอย่างจริง ๆ มันไม่มีอะไรที่เกินความสามารถค่ะ

 

Thaiwahclub : นอกจากงาน Student welfare officer ที่บอกมาได้ทำงานอะไรในออสเตรเลียอีกมั้ยคะ แล้วทำงานอะไร

    ตอนนี้มีสามงานค่ะ รวมงานหลักแล้วนะคะ มีเพื่อนเคยถามว่าทำงานเยอะขนาดนี้ที่บ้านร้อนเงินเหรอ หรือรีบใช้หนี้หรือเปล่า ฮ่าๆๆ งานเสริมทั้ง 2 งานนี้เป็นงานที่ได้ตั้งแต่วีคที่ 2 ที่มาที่นี่ จนถึงตอนนี้ก็ยังทำอยู่ค่ะ 

    งานเสริมงานแรก เป็นงานที่หลายคนไม่ชอบ แต่เราชอบ งาน Drop menu จะรับดรอปทุกเสาร์ตั้งแต่ 9 โมงครึ่งจนกว่าจะหมด 1000 ใบค่ะ แต่ช่วงนี้งดไปนะคะเพราะอากาศร้อนมากค่ะ และอีกงานคืองานเสริฟอาหาร เจ้าของร้านที่ไป drop menu ให้ เขาสงสารเห็นเพิ่งมาจากไทยแล้วยังหางานอยู่ เขาก็ชวนมาทำ ทำไปได้แค่วีคเดียวก็ลด shift เหลือแค่เสาร์-อาทิตย์เย็นค่ะ เพราะได้งานสถาบันในวีคถัดมา คือทำงานไม่มีวันหยุดค่ะ ฮ่าๆๆ

 

Thaiwahclub : สังคมการทำงานที่ออสเตรเลียเป็นยังไงบ้าง

    สังคมการทำงานที่นี่แตกต่างจากไทยมาก ๆ ค่ะ ที่ไทยเราช่วยงานกัน ไม่เกี่ยงว่างานใคร ทำได้หมด แต่ที่นี่คืองานใครงานมัน ทั้งที่สามารถช่วยงานกันได้ บางทีงานเราแบบยุ่งมาก กองเต็มโต๊ะ แต่เพื่อนข้าง ๆ นั่งชิล เล่นมือถือ เปิด Facebook แต่เขาก็จะไม่ยื่นมือมาช่วยเรา เคยถามเค้าเหมือนกันนะคะ เขาเคยบอกว่า ใช่ เขาอาจจะช่วยได้ แต่บางทีเขาไม่ได้รู้ detail เท่าเราเอง และอาจจะพลาดได้ ซึ่งถ้ามีอะไรผิดพลาดมาเขารับผิดชอบไม่ไหว ถ้ามองในแง่ดีคือเขาก็อาจจะแค่ปกป้องตัวเอง บางทีการเอ็นดูเขาเอ็นดูเราอาจจะขาดก็ได้ อันนี้เข้าใจ และปรับตัวได้ค่ะ 

 

Thaiwahclub : มีกิจกรรมอื่นๆอะไรอีกบ้างที่ได้ทำในออสเตรเลีย

    เวลาว่าง ๆ จะวิ่งเล่นตามสวนสาธารณะค่ะ แต่ส่วนใหญ่ถ้าว่างจะออกไปเที่ยวค่ะ ถ่ายรูปเล่นตามร้านคาเฟ่เป็นส่วนมากค่ะ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ ดังนั้นร้านคาเฟ่สวย ๆ เยอะมากค่ะ น่าเข้าทุกร้านค่ะ 

 

Thaiwahclub : คุณโรสมีวิธีหาเงินพิเศษที่ไม่สามารถทำได้ที่ไทยด้วย ช่วยเล่าหน่อยค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง

    เก็บขวดขายค่ะ จริง ๆ ที่ไทยก็ทำได้นะคะ แต่ไม่เคยคิดจะทำอยู่แล้วอ่ะค่ะ มาที่นี่ครั้งแรกเราตกใจมาก มันได้คืนขวดล่ะ 10€ เท่ากับประมาณ ชิ้นล่ะ 2.30 บาทบ้านเรา ลองคิดดูเล่น ๆ นะคะ 10 กระป๋องโค้กได้ 23 บาท 100 กระป๋องได้ 230 บาท มันดูเหมือนไม่เยอะแต่รวม ๆ กันคือได้ค่าขนม ของใช้ส่วนตัวอยู่นะคะ ถามว่าไปเก็บกระป๋องมาจากไหน? เก็บจากร้านอาหารไทยที่เราทำงานนั้นแหละค่ะ ไม่ถึงกับไปคุ้ยหาตามถังขยะนะคะ 

    ทุกวันอาทิตย์เราถือถุงดำถุงใหญ่มากขึ้นรถไฟเอาไปขายก่อนไปทำงานร้านอาหารไทยค่ะ อยู่ที่นี่ไม่อายนะคะ เพราะที่นี่เค้ารณรงค์ลดโลกร้อน พกถุงผ้าค่ะ เหมือนเราเป็นผู้พิทักษ์โลกอะไรแบบนั้น อันนี้คิดเอาเองนะคะ ฮ่าๆๆ ขายขวดวีคหนึ่งก็จะได้ประมาณ $20-$25 รวม ๆ ตั้งแต่เริ่มเก็บมาก็ได้ประมาณ $200 กว่า ๆ เยอะใช่ไหมคะ

 

Thaiwahclub : วันหยุดจากการทำงานได้ไปเที่ยวที่ไหนในออสเตรเลียบ้างคะ และมีที่ไหนที่แนะนำสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวออสเตรเลีย

    จริง ๆ คือไม่มีวันหยุดเลยค่ะ ทำงานสัปดาห์ละ 7 วัน แต่มีเวลาเที่ยวนะคะ คือออกเที่ยวแค่วันอาทิตย์เพราะค่าเดินทางถูกค่ะ คือแต่ละวีคจะหารีวิว ทำแพลนแบบไปเช้ากลับบ่ายให้ทันไปขายขวดและเข้างานร้านอาหารไทย 

    เชื่อไหมคะแค่ครึ่งวันเช้าเคยไปไกลถึง Wollongong มาแล้วนะคะ ไปวัดจีนที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ไปดูจิงโจ้ถ่ายรูปแบบใกล้ชิดที่ Morisset นอกนั้นก็จะตามรอบ ๆ Sydney ค่ะ ก็จะมี Bondi, Manly, Diamond bay, La perouse, Cockatoo Island, Plam beach เร็ว ๆ นี้ช่วงคริสต์มาสก็มีทริปไปเที่ยว Melbourne ห้าวันค่ะ

 

Thaiwahclub : ปรับตัวสำหรับการใช้ชีวิตในออสเตรเลียอย่างไร มีเจอ Culture Shock บ้างไหม

    เคยมีครั้งหนึ่งค่ะ ต้องไปเรียน Class RSA/RCG ที่สถาบันหนึ่งในซิดนีย์ มันคือใบอนุญาตในการทำงานในร้านอาหารที่มีแอลกอฮอล์เสริฟและตามร้านที่มี Casino ร้านอาหารบางทีเขาต้องมี RSA ในการทำงาน พอมาถึงที่ออสเตรเลียวันแรกเราก็ไปลงสมัครเรียนทันที เพื่อจะได้หางานได้ไว ๆ เรื่องก็เริ่มจากที่นี่แหละค่ะ 

    คนสอนเขาเป็นคนออสเตรเลียแต่กำเนิด ซึ่งหลายคนก็รู้ดีว่าสำเนียงคนที่นี่ฟังยากมาก ยิ่งใช้คำ slang ก็ยิ่งเข้าใจยากไปอีก ช่วงที่เรียนทั้ง class ส่วนมากจะหัวทองหมด คือไม่ใช่คนออสเตรเลียนะคะที่มาเรียน แต่จะเป็นคนแถบยุโรป อเมริกาใต้ ที่ถือ student visa และ working holiday visa 

    เราก็จะนั่งเด่นผมดำหน้าเอเชียกับเพื่อนอยู่ 3 คน คือเพื่อน 2 คนที่เรียนด้วยกันคือยังอ่อนในเรื่องภาษา เราก็ไม่ได้เก่งมากขนาดนั้น แค่สื่อสารคุยรู้เรื่อง เวลาเรียนเหมือน trainer เขาจะรู้ว่า 3 คนนี้ ฟังไม่รู้เรื่องหรือไม่ทันแน่ ๆ เขาก็ยิงคำถามต่าง ๆ นานามาหาเรา ยิ่งรู้ว่าเราตอบไม่ได้ หรือตอบแบบตะกุกตะกัก เขาก็ยิ่งถามเรามากขึ้น เสียงดังขึ้น ทีนี้แหละค่ะ ฟังเหมือนคนไม่ได้ยินเข้าหูซ้ายทะลุออกขวา คือตัวแข็งและชาไปหมดตอบไม่ได้เงียบ จนเหมือนเขาไม่พอใจมาก ๆ ที่เราเงียบแบบนั้น แล้วพูดเสียงดังให้ทั้งห้องได้ยินว่า 3 คนนี้ฟังไม่รู้เรื่อง แล้วมาเรียนทำไม? ถ้าพวกยูยังเป็นแบบนี้ ฉันออก certificate ให้ไม่ได้นะ แล้วสายตาคนทั้งห้องก็พุ่งมาที่เรา 3 คน 

    ตอนนั้นคืออายมากค่ะ ทำอะไรไม่ถูก ตัวชาไปหมด คือจริง ๆ ก็รู้เรื่องที่เขาพูดนะคะ แต่คือตอนนี้มันแบบช็อคค่ะ ทำอะไรไม่ถูก อยากเดินออกจากห้อง แต่เสียดายค่าเรียนที่จ่ายไป แต่สุดท้ายก็ทนนั่งเรียนทำแบบทดสอบไป คือสุดท้ายผลก็ผ่านนะคะ คือเราทั้ง 3 คน เขียนได้ อ่านได้ ฟังพูดอาจจะติดขัด แต่ไม่ถึงกับฟังไม่รู้เรื่องขนาดนั้น คือจริง ๆ เขาแค่อยากให้เราแสดงความคิดเห็นอะไรแบบนั้น ปกติเรียน lecture ก็นั่งฟังจด ๆ ไป พอมาเจอที่นี่ตั้งรับไม่ทันค่ะ ฮ่าๆๆ เหตุการณ์นี้ทำเสียความมั่นใจไปเกือบหมดจริง ๆ ค่ะ 

 

Thaiwahclub : ได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากการไปออสเตรเลียด้วยวีซ่า Work and Holiday

    ได้เจออะไรใหม่ ๆ ได้ฝึกภาษา ได้เพื่อนใหม่ มาที่นี่คือฝึกให้ตัวเองอดทนมากขึ้นค่ะ เพื่อนเคยบอกว่าอะไรที่ไม่เคยทำหรือทำไม่เป็น มาที่นี่เดี๋ยวก็ทำได้หมด มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ 

 

Thaiwahclub : ต่อไปหลังจากจบวีซ่า Work and Holiday ได้มีแพลนจะไปไหนทำอะไรต่อรึยังคะ

    รอดูว่าที่ทำงานปัจจุบันเค้าจะยื่น work permit ให้ไหม เพราะตอนที่สัมภาษณ์งานเขาเคยคุยไว้แบบนั้น ถ้าเขาทำให้ก็อาจจะอยู่ต่อค่ะ แต่ถ้าไม่ ก็คงกลับไทย แต่คงขอไปเที่ยวที่ ๆ อยากไปสัก 2-3 เดือน และค่อยกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านค่ะ

 

Thaiwahclub : อยากฝากอะไรถึงคนที่กำลังตัดสินใจจะไปออสเตรเลียด้วยวีซ่า Work and Holiday หรือเรียนต่อในออสเตรเลียกันบ้างคะ

    เชื่อว่ามีหลายคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาดีไหม มาเถอะค่ะ มารอดไปด้วยกัน นี่น่าจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่สามารถมาทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมายและทำงานได้เต็มเวลา อิสระมากค่ะ โครงการนี้น่าจะเป็นโครงการที่จ่ายน้อยที่สุด และเก็บเงินได้เยอะที่สุด ดูจากเพื่อนหลาย ๆ คนก็เก็บได้พอตัวค่ะ มาแบบถุงกระสอบ กลับแบบ rimowa อะไรแบบนั้นค่ะ ฮ่าๆๆ 

 

    ติดตามการใช้ชีวิตในออสเตรเลียของคุณโรสต่อได้ทาง Instagram : praphawarin สำหรับคนที่สนใจแชร์เรื่องราวของตัวเองในออสเตรเลียจะด้วยวีซ่า Wah หรือวีซ่านักเรียน สามารถติดต่อได้ทาง inbox ของเพจ Thaiwahclub หรือทางอีเมล zgamez@beyondstudycenter.com ได้เลยค่ะ