




สัมภาษณ์คุณลูกปลา Krittika ผู้ได้รับทุน Endeavour Scholarships and fellowships ปีในสาขา Fashion Design
ความสนใจในด้านแฟชั่นที่สั่งสมมาตั้งแต่สมัยเรียน และประสบการณ์ทำงานด้านการออกแบบหลังจากเรียนจบ ทำให้คุณลูกปลาตัดสินใจลองสมัครทุน Endeavour เพื่อเรียนต่อตามความฝันของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเรียนทางด้าน Fashion design ที่ TAFE Kangan, Melbourne มาดูกันว่าแรงบันดาลใจและขั้นตอนในการสมัครทุนเป็นอย่างไร
เริ่มสนใจด้านการออกแบบและดีไซน์ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เริ่มจากช่วงตอนที่เราเรียนมัธยมปลาย แล้วต้องเลือกคณะเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย พอเราเลิกเรียนก็ชอบไปเดิน ดูของตามร้านต่างๆ เช่นพวก Room interior product, Furniture design ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ทุกอาทิตย์ คือตอนนั้นเรารู้ว่าเราชอบของแบบนั้น แต่ไม่แน่ใจว่าจนมีพวกพี่ๆจากมหาวิทยาลัยมาประกาศเรื่อง open house ให้เราเข้าไปลองดู เลยสมัครไปเป็นติวสถาปัตย์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ถึงมารู้ว่าสิ่งที่เราชอบ ที่เราอยากเรียนมันเรียกว่า Industrial design หรือว่าออกแบบผลิตภัณฑ์ จนพอมาช่วงที่เราเรียนปีสามก็จะมีวิชาเลือกที่เกี่ยวกับแฟชั่น คือ Introduction to Fashion กับ Fashion Design พอเราเรียนแล้วรู้สึกว่ามันสนุก ก็เลยสนใจด้านนี้
ทำไมถึงตัดสินใจที่จะเรียนต่อ แล้วตั้งใจว่าจะเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่า?
คือจริงๆเราก็คิดมาตลอดว่าอยากจะทำงานที่เกี่ยวกับ Fashion design เพียงแต่ว่าเราไม่มีโอกาสเพราะไม่ได้จบตรงสายด้านนี้ เพราะในเมืองไทยเขามีคอร์สเรียนด้านแฟชั่นโดยเฉพาะอยู่แล้ว ซึ่งเรารู้สึกว่าเราไม่สามารถที่จะไปแข่งขันกับเขาได้ เพราะความรู้เราคงไม่เพียงพอเท่ากับคนที่เรียนจบมาโดยตรง แล้วก็การที่มาเรียนต่อเมืองนอกมันก็จะได้เรื่องของภาษาเพิ่มขึ้นมาด้วย
รู้จักทุน Endeavour ได้อย่างไร?
พอดีตอนที่มา Work and Holiday ที่ซิดนีย์ เราก็รู้จักกับเพื่อนคนนึง ก็บอกเขาว่าเราอยากเรียนต่อมาตลอด เขาก็แนะนำว่ามีทุนตัวนี้นะ ลองสมัครดูไหม แล้วตอนนั้นมันมีการจัดงานบรรยายที่ไทยพอดี เป็นงานของสถานทูตออสเตรเลียแล้วก็มีพวกสถาบันการศึกษาต่างๆมาจัดบูธด้วย เราก็ไปฟังบรรยายแล้วก็เดินดูตามบูธต่างๆเพื่อหาข้อมูลคอร์สเรียนและมหาวิทยาลัย แต่ว่าตอนนั้นงานจัดช่วงปลายปีพอดี
ทำไมถึงเลือกเรียนที่ KANGKAN?
จากตอนที่เราไปงาน เราก็หยิบโบรชัวร์ของหลายๆโรงเรียนกลับมานั่งอ่านที่บ้าน แล้วก็เข้าไปดูตามเว็บไซด์ ดูว่าคอร์สเรียนที่มันตรงกับความต้องการของเรา แล้วโรงเรียนสัมพันธ์กับคอร์สไหม ซึ่งเรารู้สึกว่าของ KANGKAN เขาทำออกมาดี อ่านแล้วเข้าใจง่าย พอเราอ่านเรารู้สึกว่าเราเห็นภาพว่าถ้าเราเรียนที่นี่ เราจะได้อะไรบ้าง ก็เลยตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่
ช่วยเล่าขั้นตอนในการเตรียมตัวสมัครให้ฟังหน่อยค่ะ?
คือพอเราเลือกคอร์สเรียน และโรงเรียนได้แล้ว เราก็มาอ่านรายละเอียดของตัวทุนว่ามีประเภทไหน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง พยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วก็มีปรึกษาพี่เกม (ThaiWAH club) จนได้ข้อสรุปว่าเราควรจะสมัครทุนแบบ VET แล้วก็เลือกลงเป็นคอร์ส Diploma ซึ่งช่วงเวลาที่เรียน 2 ปีก็จะพอดีกับที่เราวางแผนไว้
หลังจากนั้นเราก็เตรียมเอกสารต่างๆแล้วก็เริ่มเขียน Essay คือโชคดีว่าเราเป็นคนตอบตัวเองได้ว่าทำไมเราถึงอยากเรียนด้านนี้ เรามี Passion ในสาขานี้จริงๆ ก็พยามยามเขียนให้เขาเห็นถึงความตั้งใจของเรา คือเรียกได้ว่าใส่ไปเต็มที่จริงๆ คือถ้าเขาอยากได้มากกว่านี้ หรือต้องการประสบการณ์มากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร
ถัดมาก็เป็นเรื่องของการหา Referee เราคิดว่าคนที่เขียนให้เราควรต้องเป็นคนที่รู้จักเราจริงๆ แล้วก็ต้องมีความน่าเชื่อถือ ก็เลยติดต่อให้อาจารย์ที่เป็นที่ปรึกษาตอนทำ Final year Project เขียนให้ เพราะเรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่รู้จักเราจริงๆ ทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของเรา ส่วนอีกคนหนึ่งก็เลยให้พี่ที่เป็นหัวหน้าที่ทำงานเขียนให้
ในตอนนั้นรู้สึกว่ามีอะไรที่เป็น Challenge ในการสมัครบ้าง?
เรื่องแรกคือเรามีข้อมูลเกี่ยวกับทุนนี้ค่อนข้างน้อย ก็เลยพยายามหาข้อมูล ดูว่าคนที่เคยได้ทุนมาก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร มีใครมาเขียนรีวิวอะไรบ้าง แล้วก็คิดว่าตัวเองจะมีคุณสมบัติเพียงพอไหม เพราะว่าตัวเองไม่ได้มีประสบการณ์เยอะมาก อีกเรื่องหนึ่งคือ สาขาที่เราจะเรียนมันดูไม่ใช่สาขาที่สำคัญแบบวิทยาศาสตร์ หรือว่าสังคมการเมืองที่ดูน่าจะมีโอกาสในการได้ทุนง่ายกว่า แต่พอประกาศผลมาว่าเราได้ทุนก็ตกใจ แต่ก็ดีใจมากค่ะ
แล้วความรู้สึกตอนนี้ที่ได้รับทุนมาแล้วเป็นอย่างไร กดดันไหม?
ก็ภูมิใจที่เราได้รับเลือกให้มาเรียนนะคะ ถ้าถามว่ากดไหม ก็ไม่ได้กดดันในแง่ลบหรือว่าเครียด แต่จะเป็นในแง่ของความคาดหวังมากกว่า รู้สึกว่าเราต้องเรียนให้เต็มที่ เราต้องทำให้ดี เพราะเราได้โอกาสมาแล้ว
แล้วชีวิตการเรียน/เพื่อนในห้องเรียนเป็นอย่างไร มีความแตกต่างจากที่ไทยไหม?
ตอนแรกที่เริ่มเรียนก็มีประมาณ 30 คน แบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องละประมาณ 13-15 คน เพื่อนในห้องเรียนก็มีทั้งแบบที่เพิ่งเรียนจบ หรืออายุใกล้ๆกัน บางคนก็จะเป็นผู้ใหญ่ไปเลยก็มี ส่วนเรื่องของการเรียนจะเน้นเป็นการปฏิบัติ คือเราต้องทำทุกอย่างเองหมดเลย ในกระบวนการกว่าเราจะดีไซน์ชุดหรือ Garment อะไรออกมาซักตัวหนึ่ง ตั้งแต่ Research เริ่ม Sketch ไปจนถึงทำ Pattern และเย็บออกมาเป็นชุดก็คือทำเองทุกอย่างเลย
วางแผนอะไรต่อหลังจากเรียนจบ?
ตั้งใจว่าอยากจะเรียนต่อ หรือถ้าไม่ได้เรียนต่อก็คงจะกลับไทยไปทำงาน คือตอนที่เราสมัครทุนเราเขียนบอกไปว่าเราอยากทำงานเป็น Fashion Designer จริงๆ เพราว่ามันเป็นสิ่งที่เราชอบ แล้วก็อยากทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กร หรือว่าประเทศของเรา เพราะเรามองเห็นว่าประเทศไทยมี Potential ในด้านนี้
สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงคนที่อยากจะสมัครทุน Endeavour
สำหรับใครที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ ก็ยังมีเวลาในการเตรียมตัวและค้นหาตัวเอง หาสิ่งที่เราชอบ, สิ่งที่เราอยากจะทำ แล้วก็พยายามพัฒนาตัวเองหรือเก็บประสบการณ์ไปก่อน ส่วนสำหรับใครที่เรียนจบแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องลงมือทำ ไม่ต้องกังวลไปก่อนล่วงหน้า ว่ามันจะยากเกินไป หรือว่าเราไม่เหมาะสมกับทุน เพราะถ้าเกิดว่าอยากที่จะได้จริงๆ เราก็สามารถทำได้อยู่แล้วค่ะ