ข่าวสาร >
2017
February
10
Work and Holiday Quick Guide 2017
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 117022 คน )

 

Work and Holiday Quick Guide สำหรับปี 2017

สรุปให้สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักโครงการนี้ครับ

    0) Work and Holiday Australia และ Working Holiday Scheme New Zealand เป็นโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน มีมาตั้งนานแล้วแหละ

ของไทยมีแค่สองประเทศคือไปออสกับนิว
ให้วีซ่าหนึ่งปี ไปเรียน ทำงาน ท่องเที่ยวได้ ตามข้อกำหนด (ไม่ใช่ทุน และไม่มีการสนับสนุนด้านการเงิน)
เป็นวีซ่าที่ใกล้เคียงกับคำนิยามว่า "ถูกและดี" มากที่สุดที่ให้เยาวชนไปใช้ชีวิตอิสระได้ปีนึง
แต่ก็แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงเรียกเพื่อนมาช่วยกดโควต้า บางคนก้ต้องสะสมแต้มบุญกันหลายปีถึงกดได้
(แซวเล่น บางคนกดปีเดียวได้เลย บางคนก็หลายปีมากๆครับ บางคนก็ไม่รอละ ไปเรียนแทนก็มี เปิดรับสมัครปีละครั้ง และมีโควต้าจำกัด)

   1) ในปี 2017 กลุ่มคนที่จะตื่นเต้นที่สุดคือ คนที่อายุ 31-35 ปี เพราะโครงการจะขยายช่วงอายุสำหรับทั้งวีซ่า Working Holiday (Subclass 417 : ไม่ใช่ของไทย) และ Work and Holiday (Subclass 462 : ของไทย) ก่อนหน้านี้ 31 ปุ๊บ หมดอายุปั๊บ  ข่าวร้ายแบบ official คือตอนนี้ทางกรมกิจการเด็กและเยาวชนแจ้งว่าปี 2017 นี้หารือกับทางสถานทูตแล้วดังนั้นคิดว่าตรงนี้ไม่เพิ่มอายุครับ 

    

   2) Quota ของสถานทูตออสเตรเลียเป็นปีละ 500 คน

   3) Quota ของสถานทูตนิวซีแลนด์ปีละ 100 คน

   4) ปกติ Work and Holiday Australia ในไทยจะแบ่งขั้นตอนดังนี้

       4.1) กดโควต้ามหาโหดกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ซึ่งเติมในไม่กี่นาที หรือไม่กี่ชั่วโมง (หากเวปล่มจะเป็นหลักชั่วโมง เพราะไม่มีคนกดได้กันเลย)

       4.2) ถ้าใครกดได้ก็ไปสัมภาษณ์กับทางดย. ไม่ยาก ใจดี แต่ต้องหลักฐานครบ พอผ่านก็จะได้รับใบรับรองคุณสมบัติ เอาไว้ยื่นวีซ่า

       4.3) จากนั้นก็นำใบรับรองไปยื่นกับสถานทูตพร้อมหลักฐานอื่นๆ

   5) ผู้สมัครจะต้องมี

       5.1) ผลภาษา : IELTS 4.5 ไม่มีแบนด์ไหนต่ำกว่า 4.5 เป็น Academic หรือ General ก็ได้ สอบมาไม่เกิน 1 ปี สำหรับออสและ 4.5 overall สำหรับนิว (ไม่เกิน 2 ปี) หรือเทียบเท่า (เช่นจบอินเตอร์ หรือ TOEFL)

       5.2) จบตรี : ต้องจบแล้วเท่านั้นตอนที่สมัครตั้งแต่รอบดย. ซึ่งจะรับปริญญาแล้วหรือไม่ ไม่เป็นไร แต่ต้องมีใบรัยรองว่าจบแล้วจากทางสถาบันครับ

       5.3) ต้องมีอายุระหว่าง 18-30 ปี 

       6.4) หลักฐานการเงิน 5,000 AUD ของออส และ 7,000 NZD ของนิว

  

   6) ดย.จะเปิดรับสมัครช่วงกลางปี ราวๆ มิย. ( ซึ่งจะประกาศอีกทีในเดือนต้นปี 2017 โดยประมาณ)
   7) สถานทูต Australia เปิดรับสมัครตั้งแต่ 1 July 2017
   8) ส่วนสถานทูต New Zealand เปิดในวันที่ 19 July 2017 (10.00 เวลา NZ)

   9)  ทั้งนี้จะต้องได้ใบรับรองจากดย. ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับวีซ่านะครับ (แต่การได้ใบรับรองไม่ได้แปลว่าต้องได้วีซ่า)

  

   10) ถ้ากดโควต้าได้ ยื่นเอกสารตามที่สถานทูตเปิดให้ขอวีซ่า (คือยื่นเลยหลังได้รับใบรับรองมา) ปกติช่วง สค. กย. ก็เริ่มได้วีซ่ากัน

   11) ได้วีซ่าแล้วไม่ว่าของออสหรือนิวแล้วต้องบินภายใน 1 ปี
ไปถึงออส/นิวแล้วถึงจะนับไปอีก 1 ปีหลังเท้าแตะประเทศแล้ว

   12) ไปไหนก็ได้ ทำงานได้แทบหมดทุกอย่าง (ถ้าเค้าจ้าง)
มีข้อจำกัดในการเรียนคือเรียนได้ไม่เกิน 17 weeks (Aus) / 24 weeks (NZ)
และทำงานได้ไม่เกิน 6  เดือน (Aus) ต่อหนึ่งนายจ้าง
และทำงานได้ไม่เกิน 3 เดือน (NZ) ต่อ 1 นายจ้าง

   13) WAH ต่อวีซ่าในออสเตรเลียได้ ถ้าไม่ติดคอนดิชั่นห้ามต่อวีซ่า ของนิวก็ต่อได้เช่นกัน

   14) ใบรับรองของดย. ทั่วไปมีอายุถึงสิ้นปีของปีที่ออกใบรับรอง เช่น ออกให้กค. 201x ก็หมดอายุ ธค. 201x ครับ (แต่ก็ต้องดูข้อกำหนดของปีนั้นๆเป็นปีๆไป)

   15) ยื่นกับสถานทูตได้ตั้งแต่ต้นกค. ถึงปลายมิ.ย.ปีถัดไป หรือจนกว่าโควต้าจะเต็ม หรือก่อนใบรับรองหมดอายุ

   16) เตรียมตัวตอนนี้ กดติดตามแพจนี้ www.facebook.com/thaiwahclub ไว้ก่อน แล้วก็เตรียมตัวสอบ IELTS ไว้ครับ
   17) ทาง  Thaiwahclub จะะมีงานให้ข้อมูลเรื่องเรียนต่อ WAH ,ทุนรัฐบาลออสเตรเลีย ในเดือน มีค. ด้วยครับ รายละเอียดลงทะเบียนตามนี้ครับ

 

Working Holiday & Education Exhibition Info Session 2017