Community Zone
Melly girl in Sydney สองปีใน Australiaกับคุณนุ้ย
โดย : zgamez   (7 January 2010) จำนวนผู้เข้าชม 8124 คน


สวัสดีครับ ชื่อแนะนำตัวเองกับเพื่อนๆหน่อยครับ
ชื่อนุ้ยค่ะ มาออสเตรเลียตอนแรกมาเรียนโทเมื่อหลายปีก่อน หลังจากนั้นกลับไปทำงานที่เมืองไทยสักพักนึง แล้วถือ WAH กลับมาใหม่ค่ะ

ตอนที่เรียนเป็นยังไงบ้างครับได้ทำงานพิเศษอะไรไหม

ตอนที่เรียนโทที่เมลเบอร์นเทอมแรกยังไม่ได้ทำงาน เพราะรู้สึกแค่เรียนและทำรายงานก็แทบจะไม่มีเวลาแล้ว รวมถึงคิดว่าเอาเวลาไปทำความคุ้นเคยกับเมือง มหาวิทยาลัย และเพื่อนที่เรียนด้วยกันก่อนดีกว่า พอปิดเทอมปุ๊บก็เริ่มหางานทำ ตอนนั้นก็ได้ทำงานที่ร้านอาหารไทยใกล้ๆบ้าน และร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใช้งานหนักพอสมควรเลยแถมยังชอบจับเวลาในการทำงานแต่ละอย่าง เช่น คุณต้องทำความสะอาดที่นั่งส่วนนี้ให้เสร็จภายในสามนาที แล้วพอสามนาทีปั๊บเค้าจะเดินมาตรวจถ้าไม่สะอาดก็จะโดนบ่นทันที ก็ทำที่ร้านญี่ปุ่นนี้ได้สักสองเดือนพอเปิดเทอมก็ไม่มีวันว่างไปทำแล้ว ตอนนั้นที่ทำอยู่ก็ได้กินอาหารญี่ปุ่นแล้วก็ได้เรียนรู้การทำอาหารญี่ปุ่นนิดหน่อย ก็สนุกดี ส่วนร้านอาหารไทยก็ยังทำอาทิตย์ละวันสองวัน เพราะถ้าเรียนและทำรายงานอย่างเดียวก็จะรู้สึกหดหู่ พอไปทำก็ได้อาหารกลับมากินอีกหลายมื้อประหยัดเวลาทำกับข้าวไป ร้านที่ทำตอนนั้นก็ดี ไ่ม่เอาเปรียบเด็ก แถมยังคอยช่วยเหลือตลอดเลย เงินเก็บที่ได้จากการทำงานก็จ่ายค่าที่พัก ค่าอาหาร แถมยังไปเที่ยวได้เกือบทั่วออสเตรเลียเลย

ทำไมถึงตัดสินใจกลับมาอีกรอบด้วย Work and Holiday Visa ครับ ลองเล่าให้เพื่อนๆฟังหน่อย
พอเรียนจบก็กลับไปทำงานที่เมืองไทย ตอนนั้นยังไม่อยากกลับเลย อยู่จนก่อนวันสุดท้ายที่วีซ่าจะหมดอายุเลย พอกลับไปก็ได้งานที่มั่นคงและเงินเดือนเยอะพอสมควรทีเดียวสำหรับในตอนนั้น แต่ทำไปประมาณเกือบสองปีก็เริ่มเบื่อ เป็นความรู้สึกที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วบ่นกับตัวเองทุกครั้งว่าไม่อยากไปทำงานเลย.. และด้วยความที่เป็นคนชอบเที่ยว ชอบอยู่ในที่ใหม่ๆอยู่ต่างประเทศ ไม่ชอบอยู่นิ่ง เลยทำให้การนั่งทำงานตั้งแต่เช้าจนเย็นในออฟฟิสเป็นเรื่องที่ทำให้หดหู่ใจ รวมทั้งกับต้องเจอรถติดทั้งตอนเช้าและตอนเย็นทำให้ตัดสินใจได้ว่าจะต้องออกไปเที่ยวหรือไปลองทำงานที่ต่างประเทศดีกว่า แล้วก็ตอนเห็นเพื่อนร่วมงานต่างชาติแต่ละคนสนุกกับการได้มาทำงานที่ไทยและก็เที่ยวทั้งที่ไทยและประเทศในละแวก เลยคิดว่าอยากไปทำงานที่อื่นดูบ้าง
ตอนแรกอยากลองไปประเทศอื่นดูเพราะรู้สึกตอนที่เรียนอยู่ที่เมลเบิร์นก็เที่ยวเกือบทั่วออสเตรเลียแล้ว แต่พอลองศึกษาดูก็ปรากฎว่าคนไทยสามารถสมัคร Work and holiday visa ได้แค่ประทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ก็เลยตัดสินใจกลับมาที่ออสเตรเลียอีกที



เคยอยู่ออสเตรเลียมาแล้ว น่าจะรู้ลู่ทาง ตอนกลับครั้งนี้มาเริ่มหางานยังไงบ้างครับ ได้ทำงานอะไรบ้าง

พอกลับมาตอนแรกก็ไปตั้งหลักที่เมลเบิร์นบ้านเก่าก่อน แวะไปหาเพื่อนๆและคนที่รู้จัก พี่ที่ร้านอาหารไทยก็ให้ไปทำในระหว่างที่หางานอย่างอื่นไปด้วย ประมาณพักนึงก็พอดีมีคนรู้จักบอกให้ลองโทรไปสมัครงานที่คาเฟ่ซึ่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เพราะตอนนั้นยังทำกาแฟไม่เป็น ชื่อแซนด์วิชอะไรก็ยังไม่ค่อยรู้ แต่พอดีเค้าขาดคนพอดีและเป็นช่วงที่เด็กปิดเทอมซึ่งที่พิพิธภัณฑ์จะค่อนข้างยุ่ง เค้าก็เลยรับ


วันก่อนไปทำวันแรกก็เลยไปฝึกทำกาแฟที่ร้านไทยที่ทำอยู่ก่อน พอไปทำวันจริงก็ต้องทำเหมือนทำเป็นบ้างแล้ว แต่ก็บอกกับหัวหน้าที่่คาเฟ่นะว่าตอนแรกอาจยังไม่คล่องมาก แต่ให้เวลาสักสามสี่วัน ชั้นต้องทำได้เร็วขึ้นแน่ แต่ก็ต้องขอบคุณพี่เจ้าของร้านอาหารไทยนะที่ฝึกเราตั้งแต่ทำอะไรไม่เป็นเลยจนคล่อง skills บางอย่างที่เรียนรู้จากร้านอาหารไทย รวมถึงการสอนให้อดทนและสู้งานทำให้พอไปทำที่คาเฟ่ เค้าไม่ต้องสอนมาก และด้วยความที่เราเร็วและสู้งานกว่าพวกเด็กออสซี่ เค้าก็เลยให้ทำทุกวัน แล้วก็ให้ทำงานฟังชั่นตอนกลางคืนด้วย เก็บเิิงินได้เป็นกอบเป็นกำ ผ่านไปสองอาทิตย์ที่คาเฟ่ก็เริ่มสอนให้เราทำอะไรหลายอย่างขึ้น บางทีต้องทำแซนวิช กาแฟ และก็วิ่งมาทำตรงแคชเชียร์ด้วยในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็ได้ลองเตรียมอาหารง่ายๆสำหรับฟังชั่นแล้วก็ได้เริ่มช่วยจัดงานฟังชั่นเล็กๆ เริ่มสนุกมากขึ้นเพราะได้จัดงานปาร์ตี้เล็กๆให้เด็กๆและก็ได้จัดเล่นเกมส์กับเด็กๆ เป็นสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความสนุกสนาน พร้อมทั้งเอร็ดอร่อยจากการกินเค้กและอาหารจากคาเฟ่ที่ปกติเราไม่คุ้นและคงไม่ซื้อกิน เนื่องด้วยราคาแพงและไม่รู้ว่าอันไหนอร่อยหรือไม่ ก็ได้ลองกินหมด ทำงานเยอะแต่น้ำหนักก็ขึ้นตามไปด้วย (หัวเราะ)

เห็นว่าได้งานประจำที่บริษัทแห่งหนึ่ง สมัครยากมั้ยครับ
หลังจากทำที่คาเฟ่ได้ประมาณสองเดือนก็ได้รับอีเมลจากหัวหน้าเก่าที่เมืองไทยว่าให้ลองติดต่อบริษัทสาขาที่ซิดนีย์เห็นว่าต้องการคนด่วน ก็โทรไปปรากฏว่าเค้าให้บินไปซิดนีย์เริ่มงานภายในหนึ่งอาทิตย์ ตกลงกันว่าทำสองเดือนแล้วจะกลับมาเมลเบิร์น ตอนนั้นก็ลังเลเพราะกำลังสนุกกับงานที่คาเฟ่ ยังไม่ค่อยอยากกลับไปทำงานออฟฟิสเลย แต่ก็ด้วยความตั้งใจที่จะมาหาประสบการณ์ทำงานหลายๆอย่าง ก็เลยสัญญากับที่คาเฟ่ว่าจะกลับมาอีกสองเดือน
หลังจากทำงานที่นี่ไปได้เดือนกว่าก็ประจวบกับมีคนลาออก เจ้านายก็เลยเลื่อนตำแหน่งให้และทำให้ต้องทำต่อไป ไม่ได้กลับไปทำงานคาเฟ่ที่เมลเบิร์นภายในสองเดือนอย่างที่วางแผนไว้ พอกลับไปเยี่ยมเจ้านายและเพื่อนๆที่คาเฟ่ที่เมลเบอร์นเค้าก็นึกว่าเราจะกลับไปทำ พอบอกว่าไปเยี่ยมเฉยๆเค้าก็ถามว่า ยูชอบอยู่ซิดนีย์มากกว่าเมลเบิร์นเหรอ ก็ตอบไปโดยไม่ต้องคิดเลยว่า เปล่า ชอบอยู่ทีเมลเบิร์นมากกว่าแต่ติดงานออฟฟิสที่ทำอยู่ มันออกไม่ได้ เค้าก็เข้าใจ เราก็แอบเศร้าอยากกลับไปทำ
พอทำไปได้ครบหกเดือนก็ต้องหยุดทำตามเงื่อนไขของวีซ่า แต่พอคราวนี้เรามีประสบการณ์ทำงานที่ออฟฟิสนี้แล้วก็เลยทำให้ได้งานชั่วคราวที่บริษัทใหม่นี้ ก็เลยมีงานให้ทำอีกก่อนที่จะต้องกลับต้นปีหน้า


เมลเบิร์นกะซิดนีย์ต่างกันเยอะมั้ยครับ
เมลเบิร์นต่างกับซิดนีย์มากทีเดียว อย่างแรกคือซิดนีย์คนเยอะมาก คนไทยและคนเอเชียก็เยอะกว่าเมลเบิร์น อยู่ซิดนีย์แล้วควา่มรู้สึกเหมือนอยู่กรุงเทพ แต่พอคนเยอะมันก็มีอะไรให้ทำมีที่ให้เที่ยวมากกว่า ห้างร้านส่วนใหญ่ในเมลเบิร์นห้าโมงก็ปิดแล้ว พอหลังหกโมงในตัวเมืองเมลเบิร์นก็เงียบแล้ว อย่างที่สองคือที่พักและค่าครองชีพที่ซิดนีย์สูงกว่าเมลเบิร์น ตอนแรกที่มาอยู่ซิดนีย์ไม่ชินกับการแชร์ห้องอยู่กันหลายๆคนแล้วก็มีคนอยู่ living room ที่เมลเบิร์นก็อาจจะมีอยู่อย่างนี้แต่น้อยมากเพราะค่าที่พักถูกกว่าที่ซิดนีย์และห้องก็ใหญ่กว่า อาจจะเป็นเพราะเมลเบิร์นยังมีที่เหลือให้สร้างอพาร์ทเมนต์เยอะ อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือรสชาดของอาหารไทย ที่ซิดนีย์ร้านอาหารไทยเยอะมากแล้วรสชาดก็เหมือนที่เมืองไทยเลย อาจจะเป็นเพราะสามารถหาเครื่องปรุงได้ง่ายกว่าที่เมลเบิร์น พูดถึงอากาศ ซิดนีย์อากาศดีกว่าและหน้าหนาวก็ไม่หนาวจับใจและลมเย็นยะเยือกเท่าเมลเบิร์น สรุปคือถ้าชอบอยู่ที่เงียบๆหน่อย สบายๆ ไม่เร่งรีบก็ลองไปเมลเบิร์น แต่ถ้าชอบเที่ยวและกลัวคิดถึงเมืองไทยหรืออาหารไทยก็ต้องอยู่ซิดนีย์

มีคำแนะนำอะไรให้น้องๆและเพื่อนๆรุ่นต่อไปบ้างมั้ยครับ
ก็อยากแนะนำให้เด็กไทยลองทำงานหลายๆอย่าง ไม่ต้องจำกัดแค่ร้านอาหารไทย ไม่ต้องกลัวที่จะเดินเข้าไปสมัครร้านฝรั่ง หรือทำงานที่ได้เรียนรู้ใหม่ๆ ไม่มีอะไรต้องอายเดินเข้าไปถาม ถ้าเค้ารับก็ดี ถ้าไม่มีตำแหน่งว่างหรือเค้าไม่รับก็แค่เดินออกจากร้าน ภาษาก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เรากล้าไปหางานอย่างอื่นที่ไม่ใช่ร้านอาหารไทยหรือไม่ แต่ถ้าไ่ม่พยายามออกจาก comfort zone ก็จะต้องติดอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่ไม่ได้ช่วยพัฒนาตัวเรา และไม่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นงานในร้านอาหารก็ได้ มีเพื่อนที่อยู่บ้านเดียวกันถือ Work and holiday visa และได้ไปลองทำงานในเรือท่องเที่ยวเฟอร์รี่ เค้าก็สอนให้ขับเรือและได้ออกเรือดูสนุกดี ไหนๆก็มีโอกาสทำงานที่นี่แล้วก็ควรจะลองทำอะไรที่กลับไปคงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้หรือทำง่ายๆ

Blog ที่เกี่ยวข้อง
Happy Birthday Melbourne!
ดูทั้งหมด
Webboard ที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด
08 No.
SENGAPO 01 No.
ขอบคุณคุณนุ้ยสำหรับบทความดีๆ ที่นำมาแบ่งปันกันนะครับ อ่านแล้วรู้สึกว่ามีบางช่วงเวลาที่เหมือนกันเลยครับ
reply    report
02 No.
ขอบคุณน่ะค่ะที่มาแชร์ประสบการณ์ในต่างแดนให้ได้รับรู้ทำให้ใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย เพราะตอนนี้กำลังตัดสินใจอยู่ค่ะว่าจะไปเรียนภาษาที่ไหนดีระหว่างอเมกากับออส ไม่เคยมีความรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยค่ะเลยอยากหาคนช่วยแนะนำ เพื่อนๆแนะนำให้ไปเรียนที่เมกาแต่แฟนแนะนำให้ไปเรียนที่ออสเพราะมีญาติอยู่ที่โน้น(แฟนไปเรียนด้วยกันค่ะ) ใจจริงอยากไปเรียนแล้วก้อทำงานเก็บเงินซักก้อนพอจะเป็นไปได้มั้ยค่ะ พอดีญาติที่อยู่ที่ออสเค้าโอนสัญชาติเรียบร้อยแล้วค่ะแล้วตอนนี้เค้าเช่าอพาร์ทเม้นท์ของรัฐบาลอยู่ถ้าเราไปอยู่ด้วยเค้าจะให้เราอยู่ที่อพาร์ทเม้นของเค้าเพื่อช่วยเราลดค่าใช้จ่าย มีใครพอจะช่วยแนะนำในเรื่องนี้ได้บ้างมั้ยค่ะ
reply    report
03 No.
ลืมบอกไปช่วยแนะนำมาทาง e-mail ได้มั้ยค่ะ tuk_tuk_kee@hotmail.com
reply    report
YuiKung 04 No.
ขอบคุณนะคะที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ว่างๆ มาเล่าอีกน้า อยากไปเหมือนกันคะ ก็กำลังเตียมตัวอยู่อ่ะคะ
reply    report
Game Busaracumwong 05 No.
ส่วนใหญ่แล้ว คุณนุ้ยคงไม่ค่อยได้มาเล่นครับ ดังนั้นถ้ามีคำถามอะไรเดี๋ยวผมจะตอบแทนให้ครับ ถ้าตอบไม่ได้จะฟอเวิดไปให้แกอีกที
reply    report
06 No.
Thx for sharing ur good experience na ka. I will take WAH Program about next year. It's so exciting ka. Then i will use ur sharing experience as my navigator ka. PS. Prepare myself and try to use English skill daily, but if i wrote in wrong sentence, plz rewrite to correct one. ^^
reply    report
07 No.
น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ เก่งน่าดูเลย ขอขอบคุณทั้งท่านผู้ให้สัมภาษณ์และท่านผู้สัมภาษณ์ครับ
reply    report

Social Network


 
Advertrising