บทความนี้เป็นบทความเก่า ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ครับ
บทความใหม่ของปี 2012 จะยังไม่ออกเพราะต้องรออัพเดทจากสท. แต่ปกติแล้วขั้นตอนจะไม่ต่างกับปี 2011 มาก
สำหรับบทความของปี 2011 สามารถเข้าไปอ่านได้ในนี้ครับ
ขั้นตอนการสมัคร WAH 2011 (Online)

ขั้นตอนการยื่นวีซ่า WAH 2011

ส่วนบทความแนะนำการเตรียมตัวของปี 2012 สามารถเข้าไปอ่านได้ในนี้ครับ
การเตรียมตัว WAH 2012

สำหรับขั้นตอนของปี 2012 ผมจะอัพเดทให้ในลิงค์ของ 2011 เองอีกที ดังนั้นอ้างอิงจากลิงค์นั้นได้เลยครับ :)

การยื่นเอกสารขอวีซ่า WAH AUS (อ้่างอิงจากข้อมูลของปี 2009)

zgamez : บทความนี้เริ่มต้นเขียนโดยสมาชิกเวปไซต์ ialiwtep โดยรวบรวมข้อมูลจากเพื่อนๆได้รับใบรับรองจากสท.แล้ว และปรับปรุงให้ข้อมูลและเนื้อหาบางส่วนให้ up-to-date โดยผมครับ

สำหรับเอกสารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการยื่นวีซ่านั้น เป็นเอกสารที่คล้ายๆกับชุดที่เรายื่นขอหนังสือรับรองจากสท. โดยรายละเอียดของเอกสารมีดังต่อไปนี้

1. Application Document Checklist (ล่าสุดเป็นเวอร์ชั่น Nov 08) เป็นเอกสารเพื่อให้เราทำเครื่องหมายเพื่อแสดงว่ามีเอกสารครบถ้วน สามารถดาวน์โหลดได้

2. Form 1208 ดาวน์โหลดและ กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ ในฟอร์มมีขั้นตอนแนะนำชัดเจน อย่าลืมเซ็นต์ชื่อที่ท้ายเอกสารและติดรูปที่หน้าแรกด้วย

(ล่าสุดเป็นเวอร์ชั่น Jul 09)

3. ชำระค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าเป็นเงิน 6,150 บาท (เปลี่ยนแปลงล่าสุด 1 ก.ค. 2552 เทียบเท่ากับ AUD 230 *หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สามารถตรวจสอบได้จาก การเปลี่ยนแปลงของวีซ่า Work and Holiday

การเทียบค่าเงินเป็นไทยบาท สามารถทำได้โดยการกด Currency Converter )
โดยสามารถชำระเป็นแคชเชียร์เช็คหรือดราฟท์โดยซื้อจากธนาคารในกรุงเทพฯ, จ.นนทบุรี, จ.ปทุมธานี หรือจ.สมุทรปราการ สั่งจ่าย “Australian Embassy Bangkok”
หรือสามารถซื้อได้กับทาง VFS ชั้นเดียวกันกับที่ขอวีซ่าเลย (ไม่สามารถจ่ายด้วยเช็คส่วนตัวหรือบัตรเครดิต)

zgamez : สำหรับปี 2010 จากการที่ค่าเงินออสเตรเลียแข็งตัวขึ้น ทำให้ค่าวีซ่าเพิ่มไปด้วย โดยหากคิด ณ ต้นปี 2010 นี้ค่าธรรมเนียมวีซ่า Work and Holiday จะเท่ากับ 7350 บาทครับ

อ้างอิงจาก http://www.immi.gov.au/allforms/990i/converter.htm

4. เอกสารส่วนตัว โดย สามารถเข้าไป โหลดแบบฟอร์มคำร้องและตัวอย่างการแปล จากในเว็บของกระทรวงต่างประเทศ
หรือที่ www.thaichicago.net/frame/tran_form.html
หากต้องการตัวอย่างเอกสารว่าหลังแปลเสร็จเป็นอย่างไร สามารถเข้าดูได้ที่ลิงค์นี้ http://www.usvisa4thai.com/board/viewtopic.php?f=14&t=4995
เพียงแค่เลือกแบบฟอร์มต่างๆ ที่ข้อมูลตรงกับเอกสารของเรา แล้วปริ้นท์ออกมา แล้วนำมาแปลด้วยตนเองก็ได้ แต่ต้องพิมพ์เอา ห้ามกรอกลงไปด้วยการเขียนเด็ดขาด แล้วก็อย่าลืมเซ็นต์ชื่อผู้แปลเอกสารด้วย

เอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่ามีดังต่อไปนี้
- สำเนาบัตรPassport (หนังสือเดินทาง) 2 ฉบับ (สำหรับ VFS 1 ฉบับ เพื่อใช้ในการรับ Passport Book คืน และอีก 1 ฉบับ สำหรับสถานฑูตฯ) และพาสปอร์ตตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมเอกสารตัวจริง และใบแปลเป็นภาษาอังกฤษ
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ระบุชื่อพ่อและแม่ พร้อมเอกสารตัวจริง และใบแปลเป็นภาษาอังกฤษ รับรองสำเนาถูกต้องเช่นกัน ถ้าในทะเบียนบ้านไม่ได้ระบุชื่อพ่อและแม่ จะต้องใช้ใบสูติบัตรแทน
- สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล (ถ้ามี) พร้อมเอกสารตัวจริง และใบแปล
- รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต (45mm x 35mm) 2 ใบ เขียนชื่อ-นามสกุลไว้หลังรูปด้วย
- สำหรับผู้ชาย เพิ่มเติมใบสด.43 พร้อมเอกสารตัวจริง และใบแปล
** สำหรับกติกาเรื่องการแปลเอกสารนั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากทางสท. และสถานฑูต
5. หนังสือรับรองฐานะทางการเงินตัวจริงจากธนาคารเป็นภาษาอังกฤษ ว่ามีเงินอย่างน้อย 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 150,000 - 200,000 บาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน) โดยเป็นชื่อบัญชีของเราเองเท่านั้น
6. ใบรับรองคุณสมบัติจากสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.)
7. สำเนาหลักฐานการศึกษาที่ได้รับการรับรองจากสถานศึกษา (certified transcript) โดยผู้สมัครสามารถขอได้จากสถานการศึกษาที่จบมา โดยใช้ทรานสคริปต์ ประกอบใบรับรองจบการศึกษาหรือปริญญาบัตร (อย่างใดอย่างหนึ่ง) เป็นฉบับภาษาอังกฤษ
8. หนังสือให้ความยินยอมจากผู้ปกครองเป็นภาษาอังกฤษ คลิกเพื่อดาวน์โหลด Parent Permission Letter
9. ใบจองบัตรโดยสารเครื่องบิน จองไปก่อน แบบไม่ต้องจ่ายเงิน (อาจมีการเปลี่ยนแปลง คือ ไม่ต้องใช้ยื่นประกอบ ควรตรวจสอบจากทางสถานฑูตเพิ่มเติม)
10. ผลทดสอบภาษาอังกฤษ IELTS (General) ระดับ 4.5 หรือ
- หลักฐานว่า ได้รับการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มีการสอนเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 2 ปี

- หลักฐานที่แสดงว่าได้จบการศึกษาในระดับ Diploma ขึ้นไปในออสเตรเลียเป็นเวลาหนึ่งปี

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับภาษาอังกฤษได้ืั้ที่ ระดับภาษาอังกฤษสำหรับ 462
11. แผนการเดินทางโดยคร่าวๆ (เขียนสรุปไม่เกิน 1 หน้าเป็นภาษาอังกฤษ)
12. ประกันสุขภาพครอบคลุม 1 ปี (โดยทั่วไปสามารถติดต่อสอบถามจากตัวแทนขายประกันของ AIG หรือ BUPA ซึ่งประกันจะคุ้มครอง 3 – 6 เดือนต่อกรมธรรม์ และสามารถต่อได้จากประเทศออสเตรเลียภายหลัง)

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันสำหรับผู้ถือ Work and Holiday Visaได้ที่ รายละเอียดเรื่องการทำประกันครับ
13. ใบเสร็จแสดงการได้รับการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลที่รัฐบาลออสเตรเลียกำหนด โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลได้จากในเวป immigration จากส่วนของ panel doctor หรือคลิกเพื่อดาวน์โหลด รายชื่อโรงพยาบาล

เอกสารที่จำเป็น คือ form 160 (Radiological Report) และ form 26 (Medical Examination)
*บางโรงพยาบาลจะมีแบบฟอร์มเตรียมไว้ให้แล้ว แต่เพื่อความมั่นใจจะดาวน์โหลดและกรอกข้อมูลมาจากบ้านก่อนเลยก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลา


การยื่นขอวีซ่า สามารถยื่นผ่านตัวแทน (VFS) หรือว่ายื่นโดยตรงกับทางสถานฑูต

แต่เพื่อความสะดวก แนะนำให้ยื่นผ่านทาง VFS ค่ะ

ค่าธรรมเนียมในการยื่นขอวีซ่าผ่านทาง VFS เป็น Service Charges 535 บาท + DD Charges 35 บาท = 570 บาท

กรณี ลืมถ่ายเอกสารตัวใดไป ที่ตึก Thai CC ชั้น 1 มีร้านถ่ายเอกสารบริการค่ะ


*** สำเนาเอกสารทุกฉบับ ต้องลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยค่ะ ***

*** เอกสารตัวจริงทุกฉบับ ทางสถานฑูตฯ จะคืนให้พร้อมกับ Passport Book ค่ะ ***

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารการยื่นวีซ่าได้ที่ .:: Supporting documents for WAH AUS ::.