Thaiwahclub : สวัสดีครับเล็ก แนะนำตัวเองหน่อยครับ

สวัสดีครับผมชื่อเล็กนะครับ ไตรรัตน์ งามยิ่ง ตอนนี้อายุ 32 ปี 

จบการศึกษา ปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีการบินบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Aviation Management - Air Cargo Management ) จาก สถาบันการบินพลเรือน (Civil Aviation Training Center )
ปัจจุบันทำงานอยู่ที่บริษัทด้าน Logistics แห่งหนึ่งที่ Melbourne,Australia  เริ่มต้นจากตำแหน่ง Export associate , Sea freight Operation , Airfreight Operation และตอนนี้ทำในตำแหน่ง Finance Operation ( Air Export & Import , Cross Trade shipment)

Thaiwahclub : เล็กทำอะไรมาบ้างตอนอยู่ไทย ทำไมถึงตัดสินใจมาทำงานที่ออสเตรเลียครับ?

ผมก็ทำงานบริษัท  Logistics ที่ไทยครับ ทำมาเกือบ 7 ปี แล้วถึงจุดอิ่มตัวมากๆ กับการเป็นพนักงานบริษัท จึงอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ดู ซึ่งการเดินทางไปต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจอย่างมากเพราะอายุตอนนั้นก็จะ 30 แล้ว แต่คิดว่าน่าจะยังพอไหว ประมาณว่าไปทำอะไรก็ได้ อยากเจออะไรใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ จึงตัดสิ่งใจหาแนวทาง วิธีการ ถึงขั้นเขาไปปรึกษา บริษัทที่ดำเนินการเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศ หลายแห่งเลยที่เดียว แต่ค่าใช้จ่ายสูงจัง สุดท้ายมีคนแนะนำถึงโครงการ Work And holiday Australia (WAH) ซึ่งผมเคยได้ยินมาหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว แต่มองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวจัง กดโควต้ายาก การแข่งขันสูง คะแนนสอบ Ielts จึงไม่ได้สนใจและศึกษา ข้อมูล อย่างจริงจัง จนสุดท้าย เอาวะ ! ลองดูสักตั้ง โครงการนี้น่าจะตอบโจทย์เราได้ และอายุใกล้จะเลยกำหนดแล้วด้วย จึงตัดสินใจเริ่มศึกษาข้อมูล เตรียมตัว เตรียมเอกสาร เข้าฟังสัมมนาโครงการ จับกลุ่มกับเพื่อนที่สนใจโครงการด้วยกัน เพื่อปรึกษา ช่วยเหลือกัน คิดว่าถ้าได้โควต้า วีซ่าผ่านเมื่อไหร่ พร้อมจะยื่นใบลาออกทันที !!

ทั้งๆที่ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่า จะได้มาทำอะไรที่นี่ คิดซะว่ามาหาเอาข้างหน้า หาข้อมูลให้มากๆ

หา connection ใว้เยอะๆ เท่านั้นเอง สุดท้าย ก็กดโควต้าได้ รุ่นปี 2014 ครับ

Thaiwahclub : ตอนมาแรกๆเราตั้งใจอยากได้งานอะไรครับ เป้าหมายที่เราอยากได้คืออะไร

คิดว่าทำงานร้านอาหาร ทำงานฟาร์ม หรือโรงงานครับ เพราะอ่านจาก รีวิว รุ่นพี่โครงการปีก่อนๆ ว่าเค้ามาทำอะไรบ้าง ที่ไหน ยังไง อย่างที่บอก ผมทำอะไรก็ได้ อยากเจออะไรใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ มากกว่า เรื่องงาน มาถึงมันต้องได้สิ !! คือเป้าหมายใน 1 ปี อยากได้เงินกลับสักก้อน ได้เที่ยว ได้ใช้ชีวิต ได้พักสมองด้วย 

แต่ก่อนลาออกจากบริษัท ผมได้ยื่น Resume มายัง Hr บริษัทของผมสาขาที่ Melbourne ด้วยนะครับ เผื่อฟลุ๊ค ได้งาน ร่วมถึงบอกวันเดินทาง, Visa ที่ถืออยู่ ,เงื่อนไขต่างๆ ของวีซ่า (แต่คิดว่าไม่น่าจะได้ เพราะวีซ่าตัวนี้ทำงานได้แค่ 6 เดือนต่อ 1 นายจ้าง มันเป็นช่วงสั้นๆ เค้าไม่น่าจะรับ แล้วได้ข่าวว่าเค้ารับชาวต่างชาติเข้าทำงานยากมากๆ ถ้าไม่ใช่ PR หรือ Citizenship ) ผมยื่น Resume ก่อนลาออกจากที่ไทยเป็นเวลา 2-3 เดือนเลยครับ ก็ไม่มีวี่เเววการติดต่อกลับแต่อย่างใด 

Thaiwahclub : แต่ตอนนี้เราได้งาน full-time ด้าน logistic ตอนที่ได้งานและได้  ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ

ตอนได้งานดีใจมากเลยครับ เพราะ กว่าเค้าจะเรียกสัมภาษณ์งานก็หลังจากที่ผมมาถึง Melbourne ได้เกือบหนึ่งเดือนเต็มครับ หลังจากได้รับอีเมล์เรียกสัมภาษณ์ ก็ตื่นเต้น นอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวยังไงกับการสัมภาษณ์งานในต่างประเทศกับบริษัทใหญ่และเป็นทางการขนาดนี้ อีกอย่างภาษาอังกฤษของผมก็เป็นลักษณะพอสื่อสารได้ในระดับปานกลางจึงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมกังวลใจ แต่สุดท้าย ทางบริษัทเค้าตอบรับและนัดวันเริ่มงาน โห! ดีใจสุดๆ เลยครับ ถึงจะเป็นพนักงานบริษัทเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ทำในต่างประเทศเลยนะ 

และด้วยเงื่อนไขของวีซ่า สามารถทำงานได้แค่ 6เดือน ผมจึงคิดว่า 6 เดือนนี้ต้องทำให้ดีที่สุดอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นประสบการณ์จากการทำงานที่สวยหรูเลยทีเดียว แต่หลังจากทำงานผ่านไปสักพัก ทางบริษัท ก้อดำเนินการเรื่องวีซ่า ให้ เพื่อจะได้ทำงานต่อได้ อย่างถูกต้อง ...... แทบไม่ต้องถามเลยครับว่าผมดีใจมากขนาดไหน ผมถือว่าผมเป็นคนที่ได้รับโอกาสที่ดีมากซึ่งชาวต่างชาติน้อยคน ที่จะได้รับโอกาสเช่นนี้

Thaiwahclub : ก่อนจะได้งานนี้ เล็กทำงานอะไรมาบ้างในออสเตรเลียครับ

ทำงานฟาร์มผักครับ ซึ่งหนักมากๆ คือแบบ ทำได้ 2วัน ไปไม่ไหวเลย สุดๆ จริงๆ อาจจะเป็นเพราะผมได้ฟาร์มโหดด้วยมั้งครับ 

หลังจากนั้นก็มาทำงานร้านอาหารไทย ครับ จนกระทั่งถูกเรียกสัมภาษณ์ และได้งาน Full time ครับ

Thaiwahclub : การทำงาน professionalแบบนี้มีความยากง่ายต่างกับที่ไทยยังไงบ้างมั้ย?

ถ้าพูดถึงเนื้องานเอง ก็จะมีความยากง่าย คละกันไป คล้ายๆกันกับที่เมืองไทย แต่สิ่งที่ท้าทายในการทำงานกลับเป็นเรื่องภาษา การสื่อสารและการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติมากกว่า ยอมรับว่ากดดันมากพอสมควร เพราะว่าทางบริษัทจะเลือกคนในประเทศเขาก็ได้ที่สื่อสารกันได้อย่างปกติก็ได้ แต่ในเมื่อเค้าเลือกเรา เราก็ต้องทำมันให้ดีที่สุด ซึ่งยอมรับว่าตอนแรก ผมเครียดมาก และต้องใช้ความพยายามในการปรับตัวมากพอสมควรเพื่อจะให้ภาษาและการสื่อสารเป็นอุปสรรคในการทำงานให้น้อยที่สุด เรียนรู้ ฝึกฝน จนกระทั่งถึงวันนี้ผมทำงานที่นี่มาสองปีกว่าแล้วครับ มันก็ดีขึ้นมาก กล้ามากขึ้น มั่นใจขึ้นกว่าตอนแรกๆ ครับ อีกอย่างผมก็โชคดีที่ได้เพื่อนร่วมงานดีด้วยเช่นกัน

Thaiwahclub :งานที่ทำในออสเตรเลียตอนนี้ เล็กคิดว่าตอบโจทย์เราในแง่ไหนบ้าง

คงเป็นเรื่องของรายได้ ที่สมเหตุสมผล แปรผันตามค่าของชีพของที่นี่ ครับ

อีกอย่าง การพัฒนาในเรื่องของทักษะการใช้ภาษาอังกฤษซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้และฝึกฝนอยู่ตลอดเวลาเพราะที่นี่ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

อีกอย่างก็คือ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เจอสังคมใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ อย่างที่ผมต้องการตั้งแต่แรก ในการเดินทางมาต่างประเทศ

ซึ่งทุกอย่างมันเกินความคาดหวังของผมตั้งแต่แรกเลยครับ

Thaiwahclub : ฝากอะไรไว้กับคนไทยในออสเตรเลีย และน้องๆ เพื่อนๆที่สนใจมาใช้ชีวิตในออสเตรเลียหน่อยครับ

สำหรับคนไทยในออสเตรเลีย ผมยอมรับว่าผมเป็นคนหนึ่งที่โชคดีได้เจอคนไทยดีๆ ที่นี่หลายคน ที่คอยช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา คอยแนะนำ ผมจึงอยากให้คนไทยที่นี่ช่วยเหลือกัน รักกัน และสามัคคีกันนะครับ รวมทั้งช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน นะครับ

สำหรับน้องๆและเพื่อนๆ ที่สนใจอยากมาใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลียนะครับ อยากให้ลองดูเพราะว่าที่นี่เป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าอยู่ น่าสนใจ และเราสามารถเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากที่นี่ มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากช่วงหนึ่งในชีวิตของผมเลยครับ อยากให้ทุกคนที่สนใจลองมาใช้ชีวิตแบบเปิดประสบการณ์ให้ตัวเอง เช่นเดียวกับผมครับ ... แล้วจะรู้ว่ามันสุดยอดจริงๆ !!!

สุดท้ายนี้ ถ้าหากประสบการณ์ของผม ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจกับใครหลายๆ คนผมคงรู้สึกดีมากๆ ครับ เพราะผมเองก็ถือว่าช่วงเวลาที่ผมกล้าตัดสินใจมาใช้ชีวิตในต่างประเทศ ในครั้งนี้ มันคุ้มค่า และได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมายจริงๆ ส่วนถ้าใคร มีคำถาม อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์การ หรือมีคำแนะนำใดๆ สามารถพูดคุยกันช่องทาง  Instagram : Real_lexus ได้นะครับ