กิจกรรมต่างๆ
2017
July
10
สัมภาษณ์คุณกอล์ฟ Supicha Sawongkhan นักเรียนทุนรัฐบาลออสเตรเลีย ศิษย์เก่า Monash University
โดย : Adminstrator ( จำนวนผู้เข้าชม 10753 คน )

สัมภาษณ์คุณกอล์ฟ 1 ใน ผู้ได้รับทุน Endeavour Scholarships and fellowships ปี 2016

คุณกอล์ฟคือ 1 ในผู้ได้รับทุน Endeavour Scholarships and fellowships ประเภท Postgraduate ปี 2016 และเพิ่งสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทจาก Monash University สาขา Public Policy and Management 

วันนี้ Thaiwahclub พาไปคุยกับคุณกอล์ฟกันอีกรอบหนึ่งค่ะ 

 

 

Thaiwahclub : รู้จักทุน Endeavour ได้อย่างไรคะ แล้วทำไมถึงตัดสินใจที่จะสมัครทุนนี้?

เริ่มจากว่าเราเรียนจบจากคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วก็มาทำงานด้านสายตลาดการเงินในฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงิน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่สักพักหนึ่ง ทีนี้ในการทำงานก็ต้องมีการติดต่อและประชุมงานกับรัฐบาลต่างประเทศและธนาคารต่างๆอยู่ตลอด จนมาถึงจุดหนึ่งเรารู้สึกว่าพื้นฐานความรู้ที่เรามีอยู่ไม่พอ แล้วก็อยากพัฒนาภาษา เลยตัดสินใจว่าอยากจะไปเรียนต่อ หลังจากนั้นก็เลยมาหาข้อมูลของทุนต่างๆตามเว็บไซด์ แล้วเราก็ตั้งเป้าไว้ว่าเราอยากได้ทุนที่เป็น Full scholarship ครอบคลุมทุกอย่าง เพราะว่าเราก็คงจะจ่ายเองไม่ไหว ดังนั้น Endeavour ก็เลยเป็นตัวเลือกแรกๆที่เราสนใจ รวมถึงพี่ชายก็จบมาจากที่ออสเตรเลียด้วย เราก็เลยรู้สึกว่ามีความคุ้นเคยกับที่ออสเตรเลียมากกว่า

 

Thaiwahclub : มีการเตรียมตัวในการสมัครอย่างไรบ้างคะ?

พอเราตัดสินใจว่าจะสมัครทุนนี้ เราก็พยายามหาข้อมูลของทุนและประวัติของคนที่เคยได้รับทุนมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นอย่างไร เพราะเราก็คิดว่าการที่เราจะได้เงินทุนเป็นล้านๆจากรัฐบาลออสเตรเลียมาโดยที่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเราจะต้องทำอะไรตอบแทน คนที่เขาได้รับทุนคือจะต้องเป็นคนที่เก่งมากๆในความคิดเรา ก็พยายามเก็บเอกสาร พัฒนาคุณสมบัติและประวัติของเรา ดูว่าเรามีอะไรที่จะต้องเตรียมตัวและพัฒนาบ้าง อย่างทุนตัวนี้ก็จะปิดรับสมัครปลายเดือนมิถุนายน เราก็วางแผนว่าต้องสอบ IELTS เมื่อไหร่และต้องให้คะแนนถึงเกณฑ์ตามที่เขากำหนด, ฝึกเขียน Essay, หา Referee เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมและยื่นก่อนที่เขาจะปิดรับสมัคร

Thaiwahclub : วีธีการในการฝึกภาษาอังกฤษ

เราก็มีวิธีการฝึกโดยใช้เพลงมาช่วย สมัยที่เรียนเราก็มีนักร้องที่ชอบคนหนึ่งคือ Avril Lavigne  คือเรารู้สึกว่าเราฟังเพลงเขาแล้วต้องร้องได้ทุกเพลง ตรงนี้ก็ทำให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษไปด้วย แล้วพอมาตอนที่เตรียมตัวจะสอบ IELST ก็พยายามฝึกทักษะ Listening, Speaking มีการดาวน์โหลดข้อสอบ IELTS ของ Cambridge มาฝึกทำเอง เพราะว่าไม่ได้ไปลงเรียนที่ไหน เพราะคอร์ส่วนใหญ่ก็ราคาค่อนข้างแพงนิดนึง

Thaiwahclub : แสดงว่าตัวเองเป็นคนเรียนเก่ง?

เอาจริงๆแล้วเป็นคนขี้เกียจมากเลยนะ เพราะว่าสมัยอนุบาลถึงประถมไม่เคยอ่านหนังสือเลย แต่จุดเปลี่ยนคือตอนที่เราไปสอบเข้ามัธยมแล้วไม่ผ่าน ซึ่งคะแนนสอบของเรามันห่างจากคนที่เข้าได้แค่ 3 คะแนน มันก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้เรา จนพอมาถึงช่วงเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเราสอบเข้าธรรมศาสตร์ได้ ก็ตั้งเป้าว่าอยากจะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ต้องได้เกียรตินิยมอันดับ1 ที่นี้ก็เลยวางแผนอ่านหนังสือ กำหนดว่าแต่ละวันก็จะต้องทำอะไรบ้าง ต้องอ่านแค่ไหน พยายามอ่านให้ได้วันละ 1-2 ชั่วโมง แต่อ่านทุกวัน เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนอ่านหนังสือนานไม่ได้

 

Thaiwahclub :สมัครแล้วได้รับทุนตั้งแต่รอบแรกเลยใช่หรือเปล่า

จริงๆตอนที่เราสมัครรอบแรกก็คิดว่าเราเตรียมตัวดีทุกอย่าง ทั้งเอกสารต่างๆ คะแนนสอบภาษาอังกฤษก็ถึงตามเกณฑ์ที่เขากำหนดไว้ ปรากฏว่าเราไม่ได้ทุน แต่ว่าก็ยังอย่างได้ทุนตัวนี้อยู่เลยลองสมัครใหม่รอบที่สอง ระหว่างนั้นก็พยายามพัฒนาตัวเอง ทำงานวิจัยเพื่อจะได้มีผลงานตีพิมเพิ่ม แล้วก็ลองเลือกหลักสูตรอื่นที่เชื่อมโยงกับการทำงานของเรามากขึ้น แสดงให้เขาเห็นถึงจุดเด่นของเรา แล้วก็เขียน Essay ใหม่ พยายามเขียนให้ตรงประเด็นมากขึ้น ซึ่งรอบนี้ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ แต่ปรากฎว่าได้ ก็เลยรู้สึกว่าถึงเราไม่ได้รอบแรก มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีโอกาสที่จะได้อีก

Thaiwahclub :รบกวนช่วยแนะนำวิธีการในการเขียน Essay หน่อยค่ะ

อย่างแรกคือเราควรจะวางโครงสร้างก่อนว่า จากคำถามที่เขาถามมา เราต้องการจะสื่ออะไร ประเด็นหลักของเราคืออะไร เรียงลำดับโครงสร้างให้อ่านง่ายๆ สำหรับใครที่ภาษาอังกฤษไม่ได้เก่งมาก อาจจะร่างใจความเป็นภาษาไทยก่อนแล้วค่อยมาเขียนเป็นภาษาอังกฤษอีกที แล้วก็ให้คนรอบข้างช่วยอ่านและตรวจทานว่าเขาอ่านแล้วเข้าใจสิ่งที่เราต้องการจะสื่อไหม เรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการที่เขาจำกัดจำนวนคำแค่ 500 คำ ดังนั้นเราจะต้องพยายามเขียนให้ตรงประเด็น อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออก ส่วนอะไรที่เป็นจุดเด่นของเราต้องใส่เข้ามา

Thaiwahclub :ในส่วนของทุนที่เราได้รับมา มีวิธีการบริหารจัดการอย่างไรบ้าง

เนื่องจากค่าเทอมเราค่อนข้างแพง ดังนั้นทุนในส่วนของค่าเทอมที่ได้มาก็จะไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด ดังนั้นเราก็จะกันเงินในส่วนอื่นๆช่น ค่า Set up, ค่ากินอยู่ มาช่วยถัวเฉลี่ยตรงนี้ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆก็ถือว่าเพียงพอโดยที่เราไม่ได้ต้องทำงานพิเศษ ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร แล้วยังพอมีเหลือเก็บกลับไทยอีกนิดหน่อยด้วย

Thaiwahclub :ความแตกต่างระหว่างการเรียนที่ไทยกับที่ออสเตรเลีย

ปกติที่ไทยส่วนมากการเรียนการสอนคืออาจารย์มาบรรยาย เรานั่งฟังแล้วก็ไปสอบ แต่ถ้าเป็นที่ออสเตรเลียจะเน้นเป็นการ Discussion กันมากกว่า คือเราก็ต้องทำการบ้าน ต้องมีวินัยคืออ่านเนื้อหาที่เขามีมาให้ล่วงหน้าก่อนที่จะเข้าห้องเรียน แล้วจำนวนคนในห้องเรียนก็มีอยู่แค่ 7-8 คน ดังนั้นถ้าอาจารย์เขาถามมาแล้วเราตอบไม่ได้ มันก็จะรู้กันทั้งหมด ส่วนเพื่อนในห้องเรียนก็จะแบ่งเป็นคนออสเตรเลียครึ่งหนึ่ง ส่วนมากก็มีประสบการณ์การทำงานมาบ้างแล้ว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็จะเป็นนักเรียนทุนจากต่างชาติ เราก็เป็นคนไทยคนเดียว 

Thaiwahclub :กิจกรรมนอกห้องเรียนมีอะไรบ้างคะ?

ก็มีไปเที่ยวบ้างนะคะ ถ้าเป็นกิจกรรมของมหาวิทยาลัยก็จะมีเป็น Let’s Chat Ambassador คล้ายๆว่าเป็นกิจกรรมอาสาสมัครไปรวมกลุ่มกับนักเรียนจากประเทศอื่นๆ เพื่อฝึกภาษาและเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ

Thaiwahclub :รู้สึกอย่างไรในฐานะที่ตอนนี้เราเป็นตัวแทน (Representative) ของทุนนี้?

ตั้งแต่ที่แรกเราขอทุนมา เราก็มีเป้าหมายว่าเราอยากจะสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการนำเอาความรู้ที่ได้มาจากการศึกษาไปใช้ต่อยอดในการทำงานและพัฒนาประเทศ สร้างเครือข่ายกับคนในประเทศต่างๆทั้งไทย, ออสเตรเลีย รวมถึงกับเพื่อนนักเรียนทุนจากประเทศอื่นๆ อีกเรื่องหนึ่งคือการที่เราได้มาแบ่งปันประสบการณ์ขอทุนของตัวเองกับเพื่อนๆทุกคน ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะว่ากว่าที่เราจะได้ทุนมา เราก็หาข้อมูลมาเยอะมากเหมือนกัน

 

Thaiwahclub :วางแผนอะไรต่อหลังจากที่เรียนจบ?

ตั้งใจว่าจะกลับไทยไปทำงานต่อที่ธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วในวันเสาร์-อาทิตย์ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเป็นอาจารย์พิเศษตามที่ต่างๆ เพราะชอบเวลาให้ความรู้คนอื่น  รู้สึกมีความสุข

Thaiwahclub : สุดท้ายอยากจะฝากอะไรถึงเพื่อนๆที่อยากจะลองสมัครทุนนี้?

หลักๆคือการเตรียมตัว เตรียมเอกสารให้พร้อม อย่างเรื่องการสอบ IELTS ก็ไม่ต้องกังวลว่าภาษาไม่ดี เพราะว่ามันสามารถพัฒนากันได้ อย่างตัวเราก็อ่านเอง แต่มันก็จะใช้เวลานิดนึงเพราะไม่ได้ไปลงเรียน แต่ถ้าสามารถลงเรียนก็จะช่วยให้เราพัฒนาได้เร็วขึ้น แล้วก็เรื่องของการเขียน Essay ก็พยายามเขียนให้ดี อ่านหลายๆรอบ เขียนให้เขาเข้าใจว่าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้ เขาสมควรจะให้ทุนเรา

นอกจากนี้ก็มีบทสัมภาษณ์คุณกอล์ฟทางวีดีโอด้วย ตามลิงค์นี้ค่ะ

Golf Supicha - Endeavour Scholarship Recipient